อยากเข้าถึงกลุ่มลูกค้า  Gen Y + Z ต้องรู้อะไรบ้าง

กลุ่มคนยุค Gen Y เป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ค่านิยมและสภาพแวดล้อม โดยเริ่มมีอินเตอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทำให้กลุ่มคน Gen Y มีความคุ้นเคยกับการสื่อสารและรับข่าวสารออนไลน์ ส่วนกลุ่มคน Gen Z เป็นยุคของการเติบโตมาพร้อมเทคโนโลยี ทำให้ขาดเทคโนโลยีไม่ได้ เนื่องจากเกิดความเคยชินกับชีวิตที่ถูกอำนวยความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี ทั้งกลุ่มคนยุค Gen Y และ Gen Z จะเป็นกลุ่มที่จะมากำหนดเทรนในอนาคต เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจการซื้อ ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญและสนใจวิเคราะห์พฤติกรรมของพวกเขา สำหรับการเข้าใจและ เข้าถึงกลุ่มลูกค้า Gen Y และ Gen Z ต้องรู้ 4 สิ่งดังนี้

1. คอนเทนต์ : เนื่องจากกลุ่มคนทั้งสองเจนเนอเรชั่น รับข้อมูลข่าวสารและสื่อสารทางช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ทำให้คอนเทนต์มีจำนวนมหาศาล เพราะฉะนั้นการสร้างคอนเทนต์ให้ดึงดูดกลุ่มคนยุค Gen Y และ Gen Z จำเป็นต้องสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ เช่น เป็นคลิปวิดิโอสั้น ๆ ได้ใจความสำคัญ เป็นต้น นอกจากนี้ช่องทางการโปรโมทก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะ กลุ่มคนยุค Gen Y ตอนปลายไปจนถึงยุค Gen Z ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับ Instagram Stories และ Twitter เยอะมาก ๆ ในขณะที่คนยุค Gen Y ตอนต้นไปจนถึงคนยุค Gen X ยังคงใช้ Facebook เป็นหลักไม่ได้ลดลงจากเดิมมากนัก

2. สตอรี่ : การสร้างสตอรี่ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นและทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ ซึ่งการเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของสินค้าและบริการ กลายเป็นสิ่งที่เด็กสมัยนี้ให้ความสนใจ โดยเฉพาะอาหาร ร้านไหนที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดี ทำให้ผู้อ่านเห็นคุณค่ามากขึ้น และยอมจ่ายในราคาที่แพงขึ้น นอกจากนี้ยังมีร้านคาเฟ่ ที่มีเรื่องราวของวัตถุดิบหรือเมล็ดกาแฟที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่ม Gen Y และ Gen Z เป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแค่การกินเพื่อให้อิ่มเท่านั้น แต่เป็นการจ่ายเพื่อดื่มด่ำความรู้และวัฒนธรรมผ่านการเล่าเรื่อง

3. ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม : อย่างที่เห็นได้ชัดเลยว่า ปัจจุบันมีการตื่นตัวเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรณรงณ์งดถุงพลาสติกจากสินค้าดังหลากหลายแบรนด์หรืองดใช้แก้วพลาสติกก็ตาม นอกจากนี้ยังมีโครงการที่สนับสนุนให้เยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จึงทำให้การแข่งขันด้วยราคาที่ถูกกว่าไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่สามารถชนะใจลูกค้าได้อีกต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Gen Y และ Gen Z ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นักการตลาดจึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ เช่น ผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หรือ จัดแคมเปญปลุกกระแสรักษ์โลก เป็นต้น

4. ชอบเรียนรู้ควบคู่การใช้ชีวิต (Experiece) : การศึกษาหาความรู้เป็นสิ่งที่เถียงไม่ได้ว่าสำคัญ แต่สำหรับกลุ่มคนยุค Gen Y และ Gen Z นั้น การเรียนรู้แค่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวคงไม่พออีกต่อไป แต่การใช้ชีวิต หรือการเรียนรู้จากสังคมนั้น ทำให้เด็กเข้าใจผ่านการลงมือทำและได้รับประสบการณ์ ตรง  การทำการตลาดก็เช่นกัน การให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่การเลือกสินค้า ช่องทางการขนส่งสินค้า ช่องทางการจ่ายเงิน หรือแม้แต่การดูแลลูกค้าหลังการขาย ถือเป็นหัวใจหลักของการตลาดที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจและต้องการกลับมาซื้อซ้ำ เนื่องจากได้รับประสบการณ์ที่ดี

เพื่อปรับตัวเข้าหากลุ่มลูกค้า Gen Y และ Gen Z จำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์ต่างๆ ให้ตรงจุด

เนื่องจากแต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมการซื้อแตกต่างกัน ในฐานะของผู้ขายหรือผู้ผลิตที่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการโดนใจผู้บริโภค จึงต้องรู้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีความต้องการอะไรและหากลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาให้ได้มากที่สุด