แบรนด์เป็นส่วนสำคัญในประสบการณ์ชีวิตของเรา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การจับจ่ายของเราส่วนใหญ่มีองค์ประกอบมาจากความแตกต่างของแต่ละแบรนด์ องค์ประกอบในการสร้างแบรนด์เหล่านี้จะกำหนดความคิดและการตั้งค่าความพึงพอใจของเราเพื่อสร้างความรู้สึกจงรักภักดีต่อแบรนด์ นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับทุกผลิตภัณฑ์ และจะเป็นเรื่องจริงสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณจะนำเสนอด้วย คำถามก็คือเราจะสร้างแบรนด์ให้คงคุณค่าตลอดกาลซึ่งจะภาพที่สร้างความประทับใจและความภักดีได้อย่างไร

เว็บไซต์ Investopedia นำเสนอว่า "แบรนด์ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดของบริษัท" การสร้างแบรนด์คือขั้นแรกในการเติบโตของธุรกิจ การพัฒนากลยุทธ์ของแบรนด์เพื่อสร้างแรงดึงดูดใจให้เกิดความต้องการแก่ผู้บริโภคเป้าหมายคือขั้นตอนที่สอง การใช้กลยุทธ์ของแบรนด์เป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็อาจไม่ได้ผลหากกลยุทธ์นั้นไม่แข็งแกร่งพอ และนี่คือเคล็ดลับ 5 ข้อในการพัฒนาแบรนด์ของคุณ

• กลยุทธ์สินค้า/บริการแบบ ‘พรีเมี่ยม’ - หากตลาดสำหรับสินค้าของคุณดูจะอิ่มตัวเพราะมีชนิดของสินค้าหรือบริการที่คล้ายกันมากเกินไป อาจจะได้ประโยชน์มากกว่าหากหันมาลงทุนปรับปรุงคุณภาพของสินค้าและบริการ แล้ววางตำแหน่งซะใหม่ให้เป็นสินค้าที่เหนือกว่าทั้งในด้านคุณภาพและบริการซึ่งจะทำให้สามารถคิดราคาเพิ่มขึ้นจากความเป็นพรีเมี่ยมได้ มี 2 สิ่งที่จำเป็นในการใช้กลยุทธ์นี้เพื่อให้เกิดความยั่งยืนนั่นก็คือ ความโดดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งและความต่อเนื่อง การดำเนินงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าความแตกต่างได้ถ่ายทอดผ่านกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และได้รวมอยู่ในแบรนด์แล้ว ตัวอย่างที่ดีก็คือ Apple เปิดตัว iPhone ในปี 2007 ด้วยการออกแบบที่ก้าวล้ำและเน้นประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ ทำให้มีฐานลูกค้าที่ภักดีและจำนวนผู้ซื้อเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งๆ ที่ราคาสูงกว่ากลุ่มมือถือคู่แข่งก็ตาม

• มีตัวแทนสื่อสารกับลูกค้าที่เชี่ยวชาญ - แง่หนึ่งของวิธีการสร้างแบรนด์ที่มักถูกมองข้ามคือประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อการทำงานหรือการติดต่อสื่อสารกับพนักงานผู้ที่ให้ความรู้เรื่องแบรนด์โดยตรง พนักงานขาย พนักงานดูแลลูกค้าสายด่วนควรมีความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับข้อเสนอของบริษัท ความสามารถในการสื่อสารข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์และทำให้คนติดอกติดใจและกลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติม

• รู้จักเลือกใช้ Influencer ที่เหมาะสมในการโปรโมตผลิตภัณฑ์ - ไม่มีอะไรที่ขายได้ดีเท่าความไว้วางใจ หากสามารถเลือกใช้ผู้ที่มีอิทธิพลตัวจริงในการดึงดูดผู้ติดตามให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ  สิ่งนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ซึ่งจะทำให้ลูกค้าอยากติดตามจริงๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงหรือนักกีฬาที่จะมารับรองผลิตภัณฑ์ของคุณ แต่อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เลือกมาอย่างดี โดยการส่งข้อมูลข่าวสารออกไปยังช่องทางที่เหมาะสมก็จะเสมือนเป็นการสร้างผู้ติดตามแบรนด์ของคุณไปด้วย

• สร้างช่องทางทางการตลาดหรือทางธุรกิจ - ‘niche’ เป็นคำที่ใช้กันมากเกินไปเมื่อใช้กับเรื่องการตลาดและการสร้างแบรนด์ อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงเพราะมีความเกี่ยวข้องมากมายในการพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค การสร้างโอกาสนั้นหมายถึงการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์และสร้างตลาดที่ยั่งยืน เช่น หากคุณขายถั่วเลนทิล  การปรับทิศทางธุรกิจและขายเป็น 'ถั่วอินทรีย์' จะช่วยให้สามารถเข้าถึงตลาดอื่นๆ ได้อีก เพิ่มโอกาสในการสร้างความภักดีจากกลุ่มผู้บริโภคอาหารออแกนิกส์ และเพิ่มมูลค่าความเป็นพรีเมี่ยมสำหรับการขายของคุณ ตัวอย่างเช่น ธัญพืชอบกรอบชนิดแท่งของเนเจอร์วัลเล่ย์ (Nature Valley) ได้วางรากฐานในตลาดขนมเพื่อสุขภาพด้วยข้อความที่แสดงอย่างชัดเจนบนหีบห่อบรรจุขนม และในแผนการตลาดของพวกเขา

• ลงทุนในโซเชียลมีเดีย - สื่อสังคมออนไลน์ถือเป็นเครื่องมือของสงครามยุคใหม่เมื่อพูดถึงการตลาดและการสร้างแบรนด์ การใช้ influencer เป็นรูปแบบหนึ่งของสื่อสังคมออนไลน์ แต่ในลักษณะอื่น ๆ เช่น content marketing และการโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายแบบเดิมอย่าง Google Adwords ก็มีความสำคัญต่อการรับรู้ถึงแบรนด์เช่นกัน เช่น Sensu เอเจนซี่การตลาดขนาดเล็กได้รับมอบหมายให้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้กับเซเลบริตี้ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักชื่อ Ben Howard พวกเขาเริ่มจากหน้ากิจกรรมของ Facebook และได้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันราว 500 คน ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วันในการเตรียมตัว และเพื่อสร้างความมั่นใจพวกเขาจึงใช้ประโยชน์จากสื่อรูปแบบเดิม เช่น วิทยุและสิ่งพิมพ์เพื่อเสริมความนิยมของดารารุ่นใหม่

กุญแจสำคัญในการเก็บเกี่ยวประโยชน์จากเคล็ดลับในการพัฒนากลยุทธ์การสร้างแบรนด์เหล่านี้คือต้องชัดเจนในแนวความคิดที่ว่าคุณต้องการให้แบรนด์เป็นอย่างไร การสื่อสารภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ที่ไม่ได้มุ่งเน้นภาพลักษณ์ที่เฉพาะเจาะจงสามารถนำไปสู่การสร้างแบรนด์แบบที่คุณไม่ได้ตั้งใจให้เป็นได้จนอาจเป็นเรื่องยากที่จะสลัดออกไปเมื่อแบรนด์ติดตลาดไปแล้ว

คิดวางแผนให้ลึกซึ้งและรอบคอบเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการให้แบรนด์เป็น จากนั้นคือเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้สำเร็จ