305 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที
ทุกวันนี้การทำธุรกิจของตนเองที่บ้านเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป ทั้งทำแบบจริงจังและทำเป็นรายได้เสริม การทำธุรกิจแบบทำงานที่บ้านก็ต้องมีกลยุทธ์เพื่อการเติบโตเช่นกัน วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง กลยุทธ์ 4 ข้อต่อไปนี้จะช่วยนำทางให้กับคุณได้ ลองเริ่มลงมือทำกันเลยดีกว่า
โฟกัสที่โซเชียลมีเดีย
เมื่อทำธุรกิจของตัวเองบางครั้งอาจรู้สึกว่าเราทำโฆษณายังไง ๆ ก็เหมือนจะไม่ปังสักที เพราะแค่การไปคอมเมนต์นั่นที โพสต์นี่ที ก็ไม่สร้างผลกระทบอะไรกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใด ๆ เลยสักอัน ถึงเวลาที่จะปรับเปลี่ยนความคิดหรือมายด์เซตของคุณเสียใหม่ และมุ่งเป้าไปที่แพลตฟอร์มที่คิดว่าลูกค้าของคุณจะไปรวมกันอยู่ที่นั่นจริง ๆ
นั่นอาจหมายความว่าอาจต้องโฟกัสไปแพลตฟอร์มอันใดอันหนึ่ง เช่น หาวิธีการที่จะทำให้อินสตาแกรมถูกเห็นเพิ่มขึ้น และอาจต้องขยันติดแฮชแท็กให้มากกว่าเดิมเพื่อเพิ่มการเข้าถึงให้มากขึ้น หรือบางทีอาจต้องเรียนรู้การใช้วิธีใหม่ ๆ อย่างใช้ Pinterest เพื่อเพิ่มปริมาณแรงดึงให้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น
กุญแจสำคัญคือการเลือกแพลตฟอร์มมาสักอันหนึ่งที่จะใช้อย่างจริงจังและทำความรู้จักกับมันจริง ๆ ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนหรือขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ ต่อไป มันจะได้ผลดีมากกว่าบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพียงแค่หนึ่งหรือสองแพลตฟอร์มเท่านั้นเมื่อเทียบกับการทำแบบเดิม ๆ ในทุกแพลตฟอร์ม
คอนเทนต์
เมื่อตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้แล้ว ต้องเริ่มคิดถึงคอนเทนต์ที่จะเผยแพร่บนแพลตฟอร์มนั้น ๆ อาจต้องมีการวางแผนในการวางคอนเทนต์ล่วงหน้า 30 วันหรือตามกำหนดเวลาที่คิดว่าเหมาะสมก็ได้ และเมื่อวางแผนเซตแรกได้แล้วจะสังเกตว่าแผนนี้สามารถนำมาปรับเปลี่ยนทำซ้ำได้ในทุก ๆ เดือน
หรือหากไม่ถนัดในการทำเองอาจใช้วิธีการว่าจ้างฟรีแลนซ์ทำให้ ทดลองใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ เช่น Creative Market เป็นเว็บไซต์ที่มีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สำเร็จรูปที่ช่วยให้การออกแบบสะดวกขึ้น หรือแม้แต่ Fiverr ที่จะมีผลงานแทบจะทุกทักษะความสามารถของคนทุกมุมโลกมานำเสนอและส่งงานผ่านระบบออนไลน์ ในเมืองไทยอาจจะอาศัยเว็บไซต์ศูนย์รวมฟรีแลนซ์อย่าง fastwork, thaifreelanceonline, freelancebay ฯลฯ หรือแม้แต่เว็บไซต์ที่เราคุ้นเคยอย่าง Pantip ก็ยังได้
ไดเรกทอรี
หากต้องการให้ธุรกิจที่เราทำงานที่บ้านเติบโตก็ควรจะต้องหาทางเป็นส่วนหนึ่งในบรรดาไดเรกทอรีออนไลน์ทั้งหลายให้ได้ เนื่องจากอิทธิพลของ SEO ที่มีประสิทธิภาพของไดเรกทอรีเหล่านี้จะทำให้คอนเทนต์ของคุณถูกพบได้ง่ายจากการค้นหาบน Google เพิ่มโอกาสที่จะมีลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาหาทุกสัปดาห์หรืออาจเป็นทุกวัน เลยก็ได้
การอยู่ใน Web Directory เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ธุรกิจออนไลน์เติบโต ไดเรกทอรีจะช่วยให้ถูกค้นพบโดยผู้คนที่ค้นหาใน Google อยู่ตลอด แต่อาจมีการเรียกเก็บเงินค่าเป็นใช้จ่ายเพื่อแลกกับลิงค์คุณภาพที่เป็นประโยชน์ให้กับการทำ SEO
ตัวอย่างของ web directory ที่คนไทยรู้จักกันดี เช่น pantip.com, kapook.com, sanook.com, Hunsa.com เ
ข้อดีของ Web Directory คือ ข้อมูลเรียงอย่างเป็นระเบียบ หมวดหมู่ ค้นหาได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบค้นหาอะไรไปเรื่อยๆ ข้อเสียก็มีอยู่คือ เว็บไซต์ใหม่ๆ อาจไม่ได้อัปเดตในฐานข้อมูล หากจัดแบ่งหมวดหมู่ไม่ดีอาจทำให้เกิดความสับสน การจัดแบ่งไดเรกทอรีอาจไม่มีมาตรฐาน ดังนั้นในแต่ละ web directory อาจต่างกันไปสร้างความสับสนต่อผู้ใช้ได้ง่าย ไม่ความหลากหลายในการค้นหา เพราะจัดแบ่งหมวดหมู่ไว้แล้ว
หากต้องการที่จะขยายเครือข่าย การมองหาพันธมิตรเป็นวิธีที่ดีไม่น้อยในการเข้าสู่ชุมชนของคนอื่น ลองคิดดูว่าหากเราได้เสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีเอกลักษณ์ออกไปในกลุ่มที่เข้าร่วม โอกาสที่ผู้ประกอบการรายอื่นที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่อยู่ในกลุ่มนั้นจะรู้จักเราก็ย่อมมีมาก เป็นการเพิ่มโอกาสที่จะร่วมมือกันหรือเป็นพันธมิตรต่อกัน ที่สุดก็จะได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
การทำธุรกิจที่บ้านก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเติบโต อยู่ที่เราเองว่าจะใช้วิธีการใดมากกว่า โอกาสไม่ได้อยู่ที่ไหนแต่อยู่ในมือเรานั่นเอง
คอมพิวเตอร์ควอนตัมคืออะไร ส่งผลกับโลกของเรายังไง?
250 week ago
มาทำความเข้าใจกับยุค Crowd-based Capitalism
250 week ago
Most read this week
Trending
Comments (1)
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion