หลังจากที่ต้องพึ่งพาหน้าเพจอย่างเฟซบุ๊กเพื่อทำธุรกิจกันมามากพอสมควรแล้ว จนปัจจุบันเฟซบุ๊กเองมีการปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมซึ่งส่งผลต่อโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจให้มีจำนวนการถูกเห็นลดลง ทำให้ต้องมีการหาวิธีรับมือกับเรื่องนี้ และมีการพยายามมองหาทางออกใหม่ๆ ที่จะสามารถนำมาเป็นตัวช่วยในครั้งนี้ได้ ทางออกหนึ่งซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ดูจะเป็นวิธีที่ดีและน่าสนใจ ทั้งไม่ต้องใช้การลงทุนมากนัก หากสามารถที่จะเรียนรู้ได้เองด้วยก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก ทางออกที่กำลังพูดถึงอยู่นี่คือการกลับไปพัฒนาเว็บไซต์ด้วยการทำ SEO อย่างจริงจัง

อย่างที่รู้กันว่าการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization นั้นคือการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ Search Engine อย่าง Google, Yahoo, Bing หาเว็บของเราเจอได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด ซึ่งคนที่ทำก็ย่อมมีเป้าหมายไว้ว่าอยากให้อยู่ในหน้าแรกและในอันดับต้นๆ ด้วยนั่นเอง ซึ่งการหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาเว็บไซต์หรือการทำ SEO ถือเป็นการพึ่งตนเองได้ถาวรมากกว่าการต้องไปอาศัยสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่ผ่านๆ มานั้นน่าจะเหมือนกับการที่เราไปอาศัยบ้านคนอื่นทำธุรกิจหรือการไปยืมจมูกคนอื่นเพื่อหายใจ อย่างไรเสียก็คงสู้กับการทำของเราเองไม่ได้อยู่ดี แต่ที่ผ่านมาอาจมีผู้ประกอบการหลายรายยังคงมีความเข้าใจไม่ถูกต้องหรือยังไม่เข้าใจถึง SEO ดีพอ หากเป็นเช่นนั้นอยากให้หันมาทำความเข้าใจกันเสียใหม่เพื่อที่จะได้วางแผนปรับปรุงเว็บไซต์ต่อไปเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีที่สุดแก่ธุรกิจของเรา

คุณกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ SEO หาก...

✖ 1. เข้าใจว่า เว็บไซต์หน้าแรกสุด อันดับต้นสุด คือเว็บไซต์ที่ดีที่สุด

ไม่จริงเสมอไปว่าการได้ขึ้นไปอยู่ในอันดับ Top ของหน้าแรกนั้นจะเป็นเว็บไซต์ที่ดีที่สุดหรือมีข้อมูลตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด เว็บธรรมดาๆ ก็อาจจะครองอันดับสูงๆ ได้อันเนื่องมาจากการปรับแต่งด้วย SEO ที่ดี หรือมาจากการมีเครือข่ายจำนวนมาก และที่สำคัญอาจมาจากการทุ่มเงินเพื่อให้ได้ตำแหน่งดีๆ ก็เป็นได้ ซึ่งประการหลังนี้ไม่ขอแนะนำ

✖ 2. เข้าใจว่า หากอยากได้อันดับดีต้องเปย์หนักๆ

สืบเนื่องจากข้อแรก ด้วยความต้องการที่จะให้เว็บไซต์ได้ขึ้นไปอยู่ในอันดับ Top ก็ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อให้เป็นเว็บไซต์หน้าแรกสุด อันดับต้นสุด การทำ SEO ให้ได้ผลดีผลเร็วดีต้องจ่ายเงินเท่านั้น ซึ่งไม่จริงเสมอไป การจะให้เว็บไซต์ได้อยู่ในอันดับดีๆ สามารถที่จะมาจากการทำ SEO แบบที่ไม่ต้องใช้เงิน หากแต่มีความเข้าใจและปรับแต่งได้ถูกจุด ถูกต้องก็สามารถทำได้เช่นกัน

✖ 3. เข้าใจว่า เมื่อได้อันดับ Top แล้วคืองานจบและเป็นนิรันดร์

การทำ SEO คือการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ โดยสร้าง content ที่มีคุณประโยชน์หรือตรงตามความต้องการของผู้ที่ใช้งานหรือผู้บริโภค การทุ่มเงินเพื่อให้ติดอันดับดีๆ แล้วไม่มีการสร้างเนื้อหาที่มีคุณประโยชน์หรือน่าพึงพอใจบนเว็บไซต์เลย ก็ไม่อาจทำให้เว็บไซต์นั้นติดอยู่ในอันดับที่ดีได้นาน เว็บไซต์ที่ดีมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์จริงๆ เท่านั้นที่จะช่วยรักษาอันดับได้ การทำ SEO เป็นงานระยะยาว ต้องทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ หากทำได้อันดับแล้วหยุดก็จะมีคนอื่นขึ้นแทนเราได้ตลอดเวลา

✖ 4. เข้าใจว่า จะได้อันดับต้นๆ แค่ทำเว็บไซต์ให้ดี ไม่ต้องมี SEO ก็ได้

การที่มีเว็บไซต์ที่ดีอยู่ก่อนแล้วนับเป็นต้นทุนที่ดี ถึงกระนั้นก็ไม่ควรมองข้ามการทำ SEO ที่ต้องมีควบคู่กันไป เพชรที่ไม่ได้รับการเจียระไนก็ไม่ส่องประกาย การทำ SEO จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้ส่องแสง บวกกันต้นทุนที่ดีที่มีอยู่ก่อนแล้ว เพชรเม็ดนั้นก็จะยิ่งแวววับจับตามากยิ่งขึ้น

✖ 5. เข้าใจว่า SEO ทำแล้วแป๊บเดียวก็เห็นผล

การที่จะทำให้เว็บไซต์ไต่อันดับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งดีๆ ได้ต้องใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว และการรักษาอันดับยิ่งต้องใช้เวลามากกว่า ซึ่งการจะทำอันดับได้เร็วหรือช้าและการจะรักษาอันดับไว้ได้นานๆ วิธีที่ดีที่สุดก็คงต้องเกิดจากการทำ SEO ผนวกกับการที่เว็บไซต์ของเราต้องมีคุณภาพจริงๆ ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาด้วยเช่นกัน เพราะทุกขั้นตอนของการทำ SEO ไม่ว่าจะเป็นการมี Backlinks คุณภาพ การอัปเดตคอนเทนต์อยู่เสมอ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น อีกทั้งต้องพิจารณาด้วยว่าแต่ละธุรกิจมีคู่แข่งมากน้อยเพียงใด เว็บไซต์มีมานานแค่ไหน เคยทำคอนเทนต์มาอย่างไรบ้าง รวมถึงการวางแผนงบประมาณด้วยว่ามีมากน้อยอย่างไร ล้วนส่งผลต่อระยะเวลาในการทำทั้งสิน

✖ 6. เข้าใจว่า การทำ SEO ห้ามหยุด ห้ามพัก ห้ามรอ

ทุกอย่างย่อมต้องมีทางสายกลาง การทำ SEO ก็เช่นกัน แม้ว่าจะเป็นงานที่ต้องอาศัยการทำแบบสม่ำเสมอและต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องทำโดยไม่มีจังหวะชะลอหรือหยุดบ้างหรือทำมากเกินไป การทำ SEO ที่ดีต้องรู้จักที่จะวิเคราะห์จังหวะและเวลาที่เหมาะสม บางครั้งการปรับแต่งทุกวันหรือบ่อยมากเกินไปก็อาจส่งผลที่ไม่ดีได้เหมือนกัน

✖ 7. เข้าใจว่า SEO นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แค่ทำตามสูตรสำเร็จ

ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เป็นสูตรสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Google ที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ได้ระบบค้นหาที่ได้ผลตรงตามผู้ใช้งานมากที่สุด การปรับแต่ง SEO ตามแบบเว็บไซต์ที่เคยประสบความสำเร็จหรือตามตำราที่เขาว่ากันมา อาจจะไม่ได้ผลสำหรับเว็บไซต์ของเราก็ได้ ด้วยรายละเอียดต่างๆ ของแต่ละเว็บไซต์นั้นมีความแตกต่างกันไป อาจต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์เข้ามาช่วยเหลือบ้าง

✖ 8. เข้าใจว่า SEO เป็นเรื่องยากจนไม่สามารถทำเองได้เลย

ก็ไม่จริงเสมอไป หากว่าเราต้องการที่จะทำ SEO ด้วยตัวเองก็สามารถทำได้ มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จสามารถทำเว็บขึ้นอันดับแรกได้โดยไม่ต้องว่าจ้างใครมาช่วยทำ การทำ SEO สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และความสำเร็จเกิดได้จากการลงมือทำ ทักษะและประสบการณ์นั้นสำคัญกว่าตำรา

สำหรับผู้ประกอบการที่เคยมีความเข้าใจผิดดังกล่าวข้างต้น น่าจะพอปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ได้บ้าง และมองเห็นทางออกที่น่าสนใจและดูจะคุ้มค่าในการทำอยู่ไม่น้อยทีเดียว