นอกจากการทำธุรกิจขายสินค้าหรือให้บริการทั่วไปแล้ว SMEs หรือ Startup ที่เกิดขึ้นมาใหม่และมาแรงคงหนีไม่พ้น Production House เพราะการทำวิดีโอหรือการทำโฆษณารวมไปถึงการถ่ายภาพนิ่งในงานอีเว้นท์ต่างๆ เป็นธุรกิจที่ขายสินค้ารวมไปถึงบริการในรูปแบบเดียวกัน เป็นการขายความคิดความครีเอทีฟโดยใช้ระยะเวลาอย่างคุ้มค่ามากที่สุด Production House ถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจยอดฮิตของวัยรุ่นปี 2017 ก็ว่าได้เพราะหลายคนสามารถหาเงินได้จาก Youtube หรือการทำโฆษณาเป็น Outsource ให้กับผลิตภัณฑ์หลากหลายเจ้า และมีรายได้ตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนต่อเดือน

เริ่มต้นการทำ Production House ไม่จำเป็นต้องใช้งบเยอะ เริ่มจาก:

1. ศึกษาข้อกฎหมายการทำวิดีโอหรือการทำโฆษณาทั้งออนไลน์และออฟไลน์

2. ทำตามข้อกำหนดและศีลธรรมให้ถูกต้อง

3. จัดทำบัญชีรายรับและรายจ่าย เพื่อการยื่นภาษีและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการทำงาน

4. การถ่ายทำในช่วงเริ่มต้นอาจจะไม่ต้องลงทุนซื้อเอง สามารถเช่าอุปกรณ์เป็นรายครั้งได้ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเริ่มทำธุรกิจ

5. หาช่องทางการโปรโมทผลงานตัวเอง เช่น Facebook Fanpage, Youtube chanel, Instagram โดยใช้ความครีเอทให้มากที่สุดและโดนใจลูกค้าที่ต้องการจะจ้างงาน

6. สร้างสไตล์การทำงานของตัวเองให้เป็นเอกลักษณ์

7. สร้างผลงานและโปรไฟล์ที่ดียื่นเสนอสปอนเซอร์

8. สร้าง connection ให้ผู้คนรู้จักเรามากขึ้นว่าเราเป็นใครและทำอะไรได้บ้าง

9. รักษามาตรฐานการทำงานของตัวเอง

ถ้าถามถึงกระแสยอดฮิตของ Youtuber ในตอนนี้แน่นอนว่าทุกคนต้องมีฝีมือในการทำวิดีโอ การทำโฆษณา รวมถึงมีความครีเอทีฟเป็นของตัวเอง แล้วอะไรคือแรงจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาทำโฆษณากับเรา

1. จำนวนยอดวิวต่อ 1 วิดีโอคลิปที่ลง

2. จำนวนคนติดตามหรือยอดฟอลโลว์ของช่องที่เราโปรโมท

3. ความคิดสร้างสรรค์ในการทำโฆษณา

4. ภาพลักษณ์ที่เราสร้างเพราะเป็นตัวบ่งบอกถึงระดับของการโฆษณาสินค้าและบริการ

5. ราคาค่าจ้างแลกกับยอดขายและยอดวิวที่จะมีคนเห็น

แนวคิดในการทำโฆษณาให้ลูกค้าพอใจ ไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง และให้คนดูชื่นชม

1. ไม่ขายของมากจนเกินไป แต่สอดแทรกการขายของอย่างแนบเนียน

2. ใช้ Emotional เพราะการเล่นกับความรู้สึกที่จริงใจเป็นการดึงดูดผู้คน โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ชมชอบความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่ไม่มีใครออกมาตีแผ่เป็นวิดีโอ

3. ทำเป็น Viral Video เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจให้แชร์ video ออกไปในวงกว้าง

การทำวิดีโอมีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็มาจากความถนัดของแต่ละทีมงาน Production ดังนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวงการนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและบุกเข้าตลาดออนไลน์อย่างรวดเร็ว แม้เครื่องมือต่างๆ ที่ทุกคนใช้ต่างมีเหมือนกันหมด แต่สิ่งที่จะทำให้ขายงานได้ก็คือความคิดสร้างสรรค์ การรักษาเครดิตและมาตรฐานของงานก็สำคัญเช่นกัน จำเป็นต้องทำงานให้ตรงต่อเวลาและแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพในการทำงาน สุดท้าย Production ไหนจะอยู่หรือจะไปก็คงต้องวัดกันที่ผลงานที่ออกมานั่นเอง