หลายคนคงจะเคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาบ้างแล้ว เมื่อเดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ แค่ยิ้มและพยักหน้าทักทายกับเฮียเจ้าของร้าน สักพักก็มีก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำทุกอย่างไม่ใส่ผักโรยเมนูประจำพร้อมชาดำเย็นหวานน้อยมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ นั่นไม่ใช่แค่เพราะคุณเองที่สั่งเมนูนี้เป็นประจำแต่อาจเป็นเพราะเจ้าของร้านใส่ใจที่จะจดจำความชอบของลูกค้าแต่ละคนได้

ลักษณะที่ว่ามานั้นเรียกได้ว่าเป็นการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing แบบที่เรา ๆ คุ้นเคยกันมานานแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างเรา ๆ จนหลายคนกลายมาเป็นลูกค้าประจำทั้งที่รสชาติของอาหารอาจไม่ถึงกับต้องยกนิ้วให้ แต่ที่ได้ใจเราไปก็คือการให้ความสำคัญกับเรานั่นเอง

ยิ่งยุคนี้ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ ได้นำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการวางแผนทำการตลาดและโดยเฉพาะในเรื่องการเก็บข้อมูลของลูกค้า ทำให้รู้จักและเข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้ลึกขึ้น

Personalized Marketing คือการทำการตลาดที่มุ่งเสนอขายสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด คนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันไม่จำเป็นต้องชอบสินค้าหรือบริการตัวเดียวกัน การเสนอขายสินค้าหรือบริการจะพิจารณาจากข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ได้มา

ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีความเป็นตัวเองสูง สามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้ในทันที จึงจำเป็นต้องตอบสนองให้ตรงกับความต้องการมากที่สุดและเร็วที่สุด การทำตลาดแบบ Personalized นั้นต้องมีการเก็บข้อมูลของลูกค้าและคนที่อยู่ในแวดวง ซึ่งจะทำให้ทราบถึงแนวโน้มในการเลือกซื้อ ความชอบ พฤติกรรมในการซื้อเป็นแบบใด เพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงความต้องการ นอกจากนั้นยังสามารถที่จะแนะนำสินค้าที่น่าจะเหมาะกับพฤติกรรมของลูกค้าได้อีกด้วย ที่มากไปกว่านั้นยังสามารถบอกได้ด้วยอีกว่าคนที่อยู่ในแวดวงของเขามีความสนใจหรือเลือกซื้อสินค้าหรือบริการอะไรไปแล้วบ้าง

Personalized Marketing ดีอย่างไร?

1. เสนอสิ่งที่ตรงตามความสนใจ = เพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้น ทุกครั้งที่ลูกค้าเปิดโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแล้วพบแต่สินค้าที่สนใจหรือต้องการ โอกาสในการขายสินค้านั้น ๆ ก็ย่อมมากขึ้นอย่างแน่นอน

2. ให้บริการเสมือนคนที่รู้ใจ = สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ความประทับใจแปรผันตามความใส่ใจ และเป็นกุญแจสำคัญในการล็อกใจลูกค้าไว้กับแบรนด์นาน ๆ การให้บริการเสมือนเพื่อนที่รู้ใจสร้างความประทับใจและแสดงความสำคัญของลูกค้า ย่อมสร้างประสบการณ์ที่ดียาวนานจนสามารถเปลี่ยนไปเป็นความภักดีได้ไม่ยาก

3. ยิ่งตอบโจทย์ความต้องการได้มาก = เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ยิ่งเข้าใจ insight ของลูกค้าได้ลึกเท่าใดก็ยิ่งตอบสนองความต้องการได้มากเท่านั้น และแน่นอนว่าคุณจะยิ่งได้เปรียบ รบร้อยครั้งก็ชนะใจร้อยครั้ง

4. ทุกช่องทางสื่อสารสอดคล้องกัน = มีกี่ช่องทางก็ถูกใจทุกช่องทาง ทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ หากสามารถนำข้อมูลที่มีมาวิเคราะห์และนำเสนอให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าจะช่วยให้คอนเทนต์ที่สื่อสารออกไปในแต่ละช่องทางสอดคล้องกัน

Personalized Marketing นั้นสร้างความแตกต่างให้กับบริการได้มากกว่ากว่า สร้างประสบการณ์ที่ตรงความต้องการมากกว่า เพราะทุกข้อมูลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยตรง หาก SMES รายใดมีความสนใจก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป ลองทำความเข้าใจและประยุกต์ใช้แนวคิดให้เข้ากับธุรกิจของตนเองแบบง่าย ๆ ก่อน โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลลูกค้า วิเคราะห์พฤติกรรม มีทีมพัฒนา CONTENT ประเมินผลและสรุปข้อมูล

การทำ Personalization แม้ว่าใช้เวลาและใช้ทรัพยากรมากพอสมควร แต่ผลที่ได้มาจะสามารถต่อยอดให้ธุรกิจได้อีกมาก ทั้งการออกแบบสินค้าหรือบริการ การนำเสนอ การให้คำแนะนำ หรือแม้แต่การตั้งราคาสินค้าเพื่อให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน