303 week ago — ใช้เวลาอ่าน 2 นาที
ใคร ๆ ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และอยากลงทุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในอีกหลายทาง ในขั้นแรกเราคงต้องศึกษาธุรกิจที่เราต้องการลงทุน โดยวัดระดับความเสี่ยงของการลงทุนและการคาดการณ์กำไรหรือขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ตั้งทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายส่วนตัวและรายรับ-รายจ่ายของธุรกิจ เพื่อคำนวณรายจ่ายที่แท้จริงที่ธุรกิจต้องจ่าย โดยอาจแบ่งเป็นสัดส่วนได้ดังนี้
เงินหมุนต่อเดือนของธุรกิจ
คือเงินที่เป็นต้นทุนของธุรกิจที่ต้องจ่ายทุกเดือน และอาจจะมีการเพิ่มหรือลดลงแล้วแต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
เงินเดือนของเจ้าของบริษัท
ตั้งเงินเดือนให้ตัวเองและเก็บเป็นค่าใช้จ่าย เพราะเราไม่สามารถเอากำไรที่บริษัทได้มาทั้งหมดมาเป็นเงินเดือนของเราเอง ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินและไม่มีเงินสำรองในการทำธุรกิจเมื่อเกิดปัญหา
ประมาณค่าใช้จ่ายต่อเดือนของธุรกิจ
เช่น ค่าจ้างแรงงาน ค่าขนส่ง ฯลฯ เพื่อจะได้ขยายหรือกำหนดขนาดของธุรกิจของเรา
กำไรและขาดทุนต่อเดือน
เพื่อให้ธุรกิจมีเงินเก็บและขยายธุรกิจเพิ่ม
การแบ่งงบการลงทุนของผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ให้ความอุ่นใจว่าธุรกิจของเราจะไปรอด ดังนั้น ควรแบ่งสัดส่วนการลงทุนและรายจ่ายอย่างชัดเจน เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานต่อไปได้โดยไม่ขาดทุนเพราะการไม่วางแผน
นอกจากการจัดสรรงบประมาณการลงทุนให้เป็นสัดส่วนและเป็นระบบแล้ว ยังต้องไม่ลืมที่จะดูเรื่องของอัตราดอกเบี้ยในการกู้เงินอีกด้วย เพราะอัตราดอกเบี้ยในการกู้เงินแต่ละปีนั้นไม่เท่ากัน ทำให้เราต้องประเมินกำลังความสามารถในการผ่อนชำระให้กับธนาคารในแต่ละเดือน เนื่องจากดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายให้กับธนาคารเป็นต้นทุนของการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง ผู้ประกอบการควรประเมินการลงทุนและรายจ่ายในแต่ละเดือนให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเงินสะดุดในระหว่างการดำเนินธุรกิจ
คอมพิวเตอร์ควอนตัมคืออะไร ส่งผลกับโลกของเรายังไง?
249 week ago
มาทำความเข้าใจกับยุค Crowd-based Capitalism
249 week ago
Most read this week
Trending
Comments
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion