การประกอบการนั้นมีราคา และนี่คือวิธีที่จะคุณจะไม่ต้องจ่ายมัน

โลกของการเป็นผู้ประกอบการนั้นไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป หากมองจากภายนอก มันอาจดูเป็นภาพที่สวยหรู แต่หากคุณได้เข้าถึงจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการแล้ว คุณจะรู้ว่าหนทางของผู้ประกอบการนั้นเต็มไปด้วยขวากหนาม ความยากลำบาก และแน่นอนว่าราคาอันสูงลิบที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายก่อนที่จะไปสู่ความสำเร็จ

และนี่คือ 4 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อหนทางของการเป็นผู้ประกอบการมากที่สุด

1. การประกอบการเป็นหนทางของความโดดเดี่ยว

หนทางของการตั้งไข่ธุรกิจใหม่มักเป็นหนทางที่โดดเดี่ยวเดียวดาย ถึงแม้ว่าคุณอาจต้องพบเจอผู้คนมากมายที่จะเข้ามาช่วยเหลือคุณในแต่ละระยะของการปั้นธุรกิจของคุณขึ้นมา แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจธุรกิจของคุณได้ดีเท่าตัวคุณเอง ในหลาย ๆ ครั้ง การเป็นผู้ประกอบการจึงเปรียบเสมือนกับนายทหารผู้โดดเดี่ยว ผู้ที่จะต้องบรรลุเป้าหมายด้วยตนเองเท่านั้น ผู้ประกอบการจะต้องเป็นนักแสดงนำในบทบาทอันหฤโหด และจะต้องจัดการทุกอย่างด้วยตนเองตั้งแต่การจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุก ๆ รายละเอียดของธุรกิจนั้น ๆ ไปจนถึงการขยายผลประกอบการ ทั้งหมดล้วนเป็นภาระทางจิตใจที่หนักหน่วง
 

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการหลีกเลี่ยงความท้อใจ: ออกไปข้างนอกบ่อย ๆ เจอผู้คนที่หลากหลายและให้พวกเขาเหล่านั้นช่วยทำให้ใจคุณเบิกบาน คุณควรแบ่งเวลาเพื่อดูแลตัวเองบ้าง คุณอาจเลือกเล่นโยคะหรือเล่นกิจกรรมอะไรก็ได้ที่จะช่วยทำให้คุณรู้สึกกระชุ่มกระชวยมากขึ้น

2. โลกของการประกอบการนั้นถูกอ้อมล้อมไปด้วยความไม่มั่นคง

การสร้างธุรกิจใหม่ย่อมมาพร้อมกับความไม่มั่นคงเสมอ คุณจะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าธุรกิจของคุณจะได้รับผลตอบรับดีแค่ไหน คุณอาจไม่มั่นใจว่าผู้คนต่าง ๆ จะชอบไอเดียคุณหรือไม่ และที่สำคัญคุณไม่มีทางรู้เลยว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ และความไม่มั่นคงเหล่านี้อาจครอบงำจิตใจคุณได้ แต่สิ่งสำคัญที่คุณควรระลึกถึงเสมอคือ โลกนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ดังนั้นคุณควรที่จะต้องนำตนเองให้อยู่เหนือความไม่แน่นอนเหล่านั้น และถึงแม้ว่าธุรกิจของคุณจะล้มเหลว คุณก็สามารถที่จะสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นมาได้เสมอ

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการหลีกเลี่ยงความไม่มั่นคง: ลองนึกถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ และลองนึกดูว่าหากคุณอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น คุณจะทำอย่างไร และหากผลลัพธ์ยังสามารถที่จะออกดอกออกผลได้ และหากคุณคิดว่าคุณจะสามารถก้าวผ่านอุปสรรคนั้น ๆ ได้ การที่คุณจะลองทำทุก ๆ อย่างที่คุณอยากทำก็ไม่ได้มีอะไรจะเสีย

3. การประกอบการคือการผสมผสานกันอย่างลงตัวของความรับผิดชอบและความพอดี

แน่นอนว่าเมื่อคุณตัดสินใจที่จะก้าวเข้าสู่หนทางของการประกอบการแล้ว คุณจะต้องยื่นอกรับความรับผิดชอบต่อทุก ๆ อย่างที่คุณต้องเผชิญระหว่างทาง ตั้งแต่การเลือกนักลงทุน ไปจนถึงการเลือกหุ้นส่วน การเลือกลูกค้า การเลือกคนที่จะเข้ามาทำงานในบริษัท และทุก ๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับการบริหารธุรกิจของคุณ ทั้งหมดนี้คือความรับผิดชอบของการเป็นผู้ประกอบการ และมันอาจหนักหน่วงในบางครั้ง 

ดังนั้น ในเวลาที่คุณรู้สึกว่าคุณกำลังแบกรับทุกอย่างเอาไว้มากเกินไป คุณควรตั้งสติและเตือนตัวเองให้จัดสรรเวลางานและการดูแลชีวิตส่วนตัวของคุณให้อยู่ในจุดที่พอดี ความฝันของคุณอาจเผาผลาญเวลาอันมีค่าไปจากคุณแบบที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้นการคอยเตือนตัวเองให้หยุดพักและรักษาสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการหาจุดสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว: ลองหากิจกรรมที่คุณชอบทำในช่วงวัดหยุดสุดสัปดาห์ คุณอาจเข้าร่วมเวิร์คช็อปที่คุณสนใจ หรืออาจใช้เวลาในการดูแลสุขภาพและการพักผ่อนให้เพียงพอ

4. ความล้มเหลวระหว่างทาง 

ความสำเร็จและความล้มเหลวเปรียบเสมือนเหรียญสองด้านและบนหนทางของการประกอบการนั้น การเผชิญกับความล้มเหลวนั้นนับเป็นเรื่องปกติ และแน่นอนว่าการเผชิญกับความล้มเหลวนั้นย่อมมีผลกระทบทางด้านจิตใจของผู้ประกอบการอย่างสูง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือแม้กระทั่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ดังนั้นสิ่งที่คุณควรตระหนักคือ การหมกมุ่นอยู่กับความล้มเหลวย่อมไม่ส่งผลดีใด ๆ ดังนั้นคุณควรมองไปข้างหน้าและมองมันในแง่ดี ว่าอย่างน้อย ความล้มเหลวของคุณก็เปิดโอกาสให้คุณได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการจัดการกับความล้มเหลว: คุณอาจเคยได้ยินคำกล่าวว่า “ความล้มเหลวคือเสาหลักของความสำเร็จ” ดังนั้นคุณควรน้อมรับความล้มเหลวเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งและมั่นใจมากยิ่งขึ้น อย่าลืมว่าหลังพายุฝนย่อมมีฟ้าที่สดใสรออยู่เสมอ

ดังนั้น ในฐานะเจ้าของธุรกิจ คุณควรคิดดูว่าคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะจิตตกจากการเป็นผู้ประกอบการหรือไม่ หากใช่ คุณควรที่จะต้องจัดการปัญหานี้อย่างเร่งด่วน อย่าลืมว่ากระบวนการของการประกอบการนั้นจะให้ผลตอบแทนสูงได้ก็ต่อเมื่อคุณสนุกอยู่กับมัน ดังนั้นอย่าปล่อยให้ตนเองจมอยู่กับความทุกข์