327 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสข้าร่วมสัมมนาที่ NEA เรื่องของเวียดนาม เพื่อจะมาอัปเดตข้อมูลที่ผมมีอยู่ ก็ต้องขอขอบพระคุณ DITP สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ NEA ที่ได้จัดสัมมนาที่ดีและมีประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SME ครับ ได้ฟังท่านสนั่น อังอุบลกุล และท่านประจวบ ไชยสาสน์แล้ว ก็เห็นภาพล่ะครับว่า Why Vietnam is so attractive to foreigner investors. โดยสรุปมีดังนี้ครับ (*อาจจะมีความเห็นของผมเพิ่มเติมเข้าไปด้วยครับ)
1. ภาคการเมืองของเวียดนามมีความมั่นคง นโยบายมาจากพรรคเดียว แม้เปลี่ยนผู้บริหารก็ยังต้องดำเนินตามนโยบายของพรรค
2. ในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา GDP growth ของเวียดนาม stable มาก อยู่ที่ 6-7% ต่อปี ทุกปี
3. Exchange rate ของเวียดนาม ในสมัยก่อนอาจจะน่าเป็นห่วงแต่ปัจจุบันในช่วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยน stable มาก
4. ประชาชนเวียดนามมีความขยัน ต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามา ซึ่งอาจจะเป็นเพราะในอดีตเขาลำบากมาก ๆ และไม่มีใครต้องการที่จะหวนกลับไปเป็นแบบอดีตอีก จึงต่อสู้ทุกอย่าง ประกอบกับเวียดนามผ่านการเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติมามากว่า 1,000 ปี ตั้งแต่จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และอเมริกา ดังนั้น อิสรภาพจึงเป็นสิ่งที่ประชาชนเวียดนามหวงแหนมาก นอกจากนั้น ความเป็นคนรักชาติก็สูงมาก ๆ ด้วย เพราะในสมัยสงคราม ประชาชนจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน สามัคคีกัน จึงจะสามารถชนะสงครามได้ (แม้กระทั่งผู้หญิงก็ยังต้องจับอาวุธเข้าสู่สงคราม)
5. ผังพีระมิดประชากรเวียดนาม มีคนรุ่นหนุ่มสาวมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงอายุ 20-34 ปี มีอัตราส่วนประชากรมากที่สุด ในอีก 2 ปีข้างหน้าเวียดนามจึงเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ๆ นอกจากนั้น คนกลุ่มอายุ 20-59 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงวัยทำงานก็มีจำนวนประชากรมากที่สุดในเวียดนามด้วยครับ
6. Infrastructure ถนนหนทางและการสร้างเพิ่มเติม ณ ปัจจุบันดีขึ้นมาก ๆ ใครเคยไปฮานอย โฮจิมินห์ หรือแม้กระทั่งเมืองดานังเองก็ตาม ถนนที่มุ่งหน้าออกจากเมือง ผมว่าไม่แพ้เมืองไทยเลยนะครับ โดยเฉพาะเส้นทางหลัก เช่น ฮานอยไปไหฟ่อง (Hai Phong) เป็นแบบ Highway เลยครับ (แต่ก็ยังมีถนนจำนวนมากที่ต้องมีการพัฒนาปรับปรุงกันต่อครับ) นอกจากนั้น เมืองใหญ่ 2 เมืองรัฐบาลก็เริ่มจะสร้าง รถไฟฟ้าแล้ว ในอีก 4-5 ปีข้างหน้าก็จะเริ่ม run ได้ครับ ซึ่งก็ส่งสัญญาณให้นักลงทุนทราบว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องการพัฒนา infrastructure เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง อีกเรื่องคือ infrastructure ด้านการสื่อสาร โดนเฉพาะทางด้าน WiFi ซึ่งประเทศเวียดนาม มีศักยภาพไม่น้อยกว่าบ้านเราครับ
7. การศึกษา นโยบายรัฐบาลกำหนดให้ประชาชนเวียดนามทุกคนต้องจบการศึกษาขั้นต่ำ grade 12 จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมอัตราการอ่านออกเขียนได้ literacy rate ของเวียดนามจึงสูงมาก สูงมากกว่า 90% (สมัยผมอยู่เวียดนาม ปี 1994 คนขับ cyclo หรือจักรยานรับจ้าง นั่งอ่านหนังสือพิมพ์บนรถแบบสบาย ๆ เลยครับ) ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบันชาวเวียดนามนิยมส่งลูก ๆ ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศครับ ทั้งสิงคโปร์ อเมริกา ออสเตรเลีย หรือแม้กระทั่งประเทศไทย เช่น ABAC ม.หอการค้า หรือสถาบัน AIT ลองนึกภาพครับว่า อีก 5-10 ปีข้างหน้าคนเหล่านี้กลับประเทศแล้วไป Run ธุรกิจของครอบครัวต่อ จะเข้มแข็งขนาดไหนครับ
8. อีกกลุ่มไม่กล่าวถึงคงไม่ได้คือ คนเวียดนามโพ้นทะเล (ภาษาเวียดนามเรียกว่า เหวียด เกี่ยว) ที่หนีสงครามเมื่อปี 1970-1990 ซึ่ง ณ ปัจจุบันคนเหล่านี้ร่ำรวย มีทรัพย์สิน มีลูก ๆ ที่เกิดในประเทศนั้น ๆ เช่น อเมริกา ฝรั่งเศส กลุ่มนี้รัฐบาลเวียดนามสนับสนุนมาก ๆ ที่จะให้กลับมาบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อช่วยกันสร้างชาติ (ในอดีตอาจจะกล่าวหาว่าคนเหล่านี้ไม่รักชาติ) กลุ่มนี้ได้กลับเข้ามาประเทศเพื่อช่วยกันสร้างชาติครับ ดังนั้น ถ้าเราเจอนักธุรกิจชาวเวียดนามที่พูดภาษาอังกฤษเป็นน้ำไหลไฟดับ ก็จะได้ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะไม่จบต่างประเทศมาก็เป็นเหวียด เกี่ยว ครับ
9. Strategic partner ship เวียดนามมีการเชื่อมต่อกับประเทศต่าง ๆ มาก ทั้งทางด้านการเข้าเป็นสมาชิก WTO, CPTPP หรือแม้กระทั่งการเป็นเจ้าภาพในการประชุมระดับภูมิภาค หรือแม้แต่ในระดับโลก เช่น การประชุม APEC เมื่อปีที่ผ่านมา เท่าที่ผมเก็บได้มีเท่านี้ครับ
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ผู้ประกอบการอย่าลืมปัจจัยที่เป็นอุปสรรคด้วยนะครับ วิเคราะห์ให้ครบถ้วนเพื่อความมั่นใจก่อนไปลงทุนที่เวียดนาม Why! Vietnam (ภาค 2) ผมจะพูดถึง Trend หรือแนวโน้มของตลาดที่น่าสนใจในประเทศเวียดนามครับ ขอให้เพื่อน ๆ SME ทุกท่าน ประสบความสำเร็จในการเข้าทำตลาดที่เวียดนามนะครับ
Most read this week
Trending
Comments
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion