วลีที่โด่งดังที่สุดของผู้สร้างวอลท์ ดิสนีย์คือ "If you can dream it, you can do it หรือ ถ้าคุณมีความฝันคุณจะทำมันได้" คำพูดด้วยตัวของมันเองก็มีความสวยงามและความหมายของมันก็ย่อมที่จะยิ่งสวยงามด้วยอย่างแน่นอน และต้องยอมรับว่ามันยิ่งมีความหมายพิเศษมากขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องราวกว่าจะมาเป็นวอลท์ ดิสนีย์ การต่อสู้ดิ้นรนของนักเขียนการ์ตูนคนหนึ่งเรื่อยมาจนเมื่อเขาได้สร้างตัวละครมิกกี้ เม้าส์ขึ้นมาได้ในที่สุด จากที่ไม่สามารถเผยแพร่งานได้ จนสามารถสร้างบริษัทผลิตแอนิเมชั่นที่ทำให้ผลงานสร้างสรรค์ของเขานั้นไม่มีวันตาย และเป็นหนึ่งบริษัทผลิตสื่อที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน

ไม่ใช่แค่เส้นทางการทำธุรกิจของเขาเท่านั้นที่เป็นแรงบันดาลใจ ยังมีความจริงที่ว่าเขายังได้สร้างอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นมาด้วยการทำแอนิเมชัน และรังสรรค์โลกใหม่ที่มหัศจรรย์ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ เขาได้สร้างสรรค์ “ความฝันมากมาย” และยาวนานกว่า 4 รุ่นอายุคน เด็ก ๆ เติบโตขึ้นมากับ Mickey Mouse, Donald Duck และภาพยนตร์เรื่องยาวอย่าง Snow White, Aladdin และ Cinderella วันนี้ดิสนีย์ยังคงรักษามรดกของผู้ก่อตั้งด้วยการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของวันนี้ และสร้างแก่นหลักของเรื่องด้วยตัวละครหลักของเรื่องเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งในภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ นับจากเบลล์ในโฉมงามและเจ้าชายอสูร ไปจนถึง เอลซ่าจาก Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ และอื่น ๆ อีกมากมาย

วอลต์ ดิสนีย์ 'ฝัน' อย่างเด็ดเดี่ยว และเขาได้บรรลุถึงสิ่งที่เขาฝันถึง และในการบรรลุถึงความใฝ่ฝันนั้นเขายังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ ได้ฝันตาม และคงทิ้งเรื่องราวและตัวละครที่ไม่มีวันตายเป็นมรดกที่ยังคงดำเนินต่อไปจนวันนี้

เคล็ดลับสู่เป้าหมายแห่งฝันของคุณ

1. ฝันให้ใหญ่แล้วไปให้ถึง - ขั้นตอนสำคัญที่สุดที่จะทำให้ความฝันของคุณเป็นจริงก็คือทำ "ความฝัน" นั้นให้ชัดเจน ฝันในที่นี้คือความใฝ่ฝันในอาชีพ ตัวอย่างเช่น รถคันที่ใหญ่กว่าที่มีอยู่อาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการแต่ไม่ใช่ความฝันในอาชีพ "ความฝัน" ควรที่จะมีความต้องการบรรลุความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นที่ยังเป็นธุรกิจเล็ก ๆ และก้าวสู่การเริ่มส่งผลิตภัณฑ์ออกไปยังต่างประเทศเมื่อเวลาผ่านไป หรือในฐานะศิลปิน 'ความฝัน' ยังสามารถบรรลุความสำเร็จได้ด้วยการทำให้ผลงานได้รับการยอมรับจากแวดวงศิลปะและผลักดันให้ผลงานของคุณได้ไปแสดงในต่างประเทศ การตีความใฝ่ฝันแบบมืออาชีพนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจที่ยั่งยืน และสามารถช่วยให้ความฝันนั้นก้าวไปบนเส้นทางข้างหน้าสู่ความสำเร็จ

2. สู้งานหนัก - ราวกับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าการเข้าถึงวิสัยทัศน์เป็นเรื่องที่ยาก โธมัส อัลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์ชื่อดังได้อธิบายถึงเรื่องนี้เมื่อถูกถามเรื่องความเป็นอัจฉริยะของเขาว่า "อัจฉริยภาพคือหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของแรงบันดาลใจ ที่เหลืออีกเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์คือการทำงานอย่างหนักหน่วง" ความฝันหรือวิสัยทัศน์เป็นแรงบันดาลใจ หยาดเหงื่อหรือการทำงานเป็นตัวกำหนดว่าความคิดของคุณจะบรรลุผลสำเร็จหรือไม่ ความคิดที่ยิ่งใหญ่คือจุดเริ่มต้นและไม่ใช่สูตรแห่งความสำเร็จ

3. คิดบวกเมื่อเผชิญกับความล้มเหลว - การก้าวพลาดบ้างอาจเป็นการช่วยทำให้สามารถก้าวผ่านจุดสูงสุดและต่ำสุดของชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจมีบางครั้งที่รู้สึกมืดมนอยู่บนเส้นทางแต่หากไม่รู้สึกว่ามีผลกระทบใด ๆ ต่อความรู้สึกของคุณก็ให้มั่นใจว่าคุณจะเดินหน้าต่อไปได้แน่นอน การคาดหวังสำหรับรางวัลที่คิดว่าคุณสมควรได้รับต่อความพยายามในวันนี้อาจทำให้คุณสูญเสียแรงจูงใจ พยายามให้ความมานะบากบั่นให้อยู่ในเชิงบวกเข้าไว้ และเรียนรู้จากความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น การไม่ทำผิดพลาดซ้ำ ๆ เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพของผู้ประกอบการที่ดี

4. ชื่นชมความสำเร็จ - ความสำเร็จจะมาหาคุณเองถ้าคุณพยายามอย่างแท้จริง จงใช้เวลาในชื่นชมมัน การชื่นชมต่อความสำเร็จสามารถช่วยฟื้นฟูจิตวิญญาณและเพิ่มพลังให้กับความพยายามครั้งต่อ ๆ ไปในอนาคต มีความสุขกับความสำเร็จจะทำให้การเดินทางคุ้มค่า การเดินทางมีความสำคัญเท่ากับจุดหมายปลายทาง เวลาที่ผ่านไปแล้วไม่เคยหวนคืน

5. มีทีมที่ดี - ความยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์มีน้อยมากที่จะสำเร็จโดยการทำงานแบบโดดเดี่ยว มีทีมที่ดีเป็นสิ่งล้ำค่าบนเส้นทางแห่งความสำเร็จ หาคนที่จะสนับสนุนคุณให้พบและให้พวกเขาอยู่ใกล้ ๆ การไขว่คว้าความฝันต้องมีการเสียสละ อีกทั้งยังต้องสื่อสารกับคนที่คุณรักและทำให้พวกเขาเข้าใจถึงสิ่งสำคัญของคุณ พวกเขาจะยืนเคียงข้างคุณได้ดีขึ้นหากมีความเข้าใจ นอกจากนี้ พี่เลี้ยงเป็นผู้ที่ให้ความรู้และคำแนะนำนอกเหนือจากการให้กำลังใจที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ

ความฝันเป็นสิ่งที่สวยงาม มันจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราและผลักดันให้เราดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในวันนี้ รู้จักที่จะควบคุมพลังแห่งความฝัน และใช้มันเพื่อบรรลุความใฝ่ฝันในการดำเนินธุรกิจของคุณ