ผู้ประกอบการทุกคนต้องการยอดขายและขยายฐานลูกค้าเพิ่ม เปรียบเหมือนกับชาวประมงที่ต้องออกเรือไปกลางทะเลเพื่อต้องการจับปลาในมหาสมุทรให้ได้มากๆ นั่นก็เพื่อที่จะมีปลามาขายได้มากๆ นั่นเอง แน่นอนว่าการมีเครื่องมือในการจับปลาที่เพียบพร้อมโดยไม่ต้องหยิบยืมคนอื่นให้เสียเวลานั้น เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดกำไรอย่างเห็นได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเอาเวลาที่เหลือไปพัฒนาส่วนอื่นต่อได้

ก็เหมือนกับการที่เรามีสิ่งที่ลูกค้าต้องการ การให้บริการลูกค้าแบบ One-stop-service คือให้บริการแบบทีเดียวจบครบวงจรถือว่าเป็นการเข้าถึงลูกค้าได้ดีอีกทางหนึ่ง และถือว่าเป็นข้อได้เปรียบทางการค้าเช่นกัน และยิ่งในยุคดิจิทัลด้วยแล้วถ้าธุรกิจของคุณสามารถเพิ่มการให้บริการลูกค้าผ่านสมาร์ทโฟนได้จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาหาคุณได้มากขึ้นอีกด้วย

ประโยชน์ของการบริการและการขายแบบ One-stop-service

1. เพิ่มความรวดเร็วในการติดต่อและตอบสนองความต้องการของลูกค้า

2. เพิ่มความสะดวกในการติดต่อธุรกิจและการเป็นพาร์ทเนอร์

3. เพิ่มช่องทางการติดต่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่ายและมากที่สุด

4. เพิ่มความชัดเจนและลงรายละเอียดในการทำงาน

5. สร้างมาตรฐานการให้บริการลูกค้า

6. สร้างความรวดเร็วและกระชับในการให้บริการลูกค้า

7. ประหยัดเวลาและประหยัดทรัพยากร

8. รวดเร็วและทันสมัยเข้าใจง่ายต่อการใช้บริการ

9. สร้างชื่อเสียงการขายและการให้บริการที่ดีต่อธุรกิจ

หากเราเป็นลูกค้า สิ่งที่ทำให้เราเลือกซื้อสินค้าและบริการแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของความสะดวกสบายในการเข้าถึง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการแวะรับประทานอาหาร ร้านค้าดูสะอาดและน่ากิน มีขายทุกอย่างตั้งแต่อาหารตามสั่ง ขนมหวาน เครื่องดื่ม ผลไม้ และของฝาก แต่ไม่มีที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า ก็ทำให้มีโอกาสเสียลูกค้าให้กับร้านคู่แข่งที่มีบริการการขายและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแบบครบวงจรมากกว่า

การจัดตั้งบริการการขายให้ลูกค้าต้องศึกษาความต้องการของลูกค้าก่อน โดยเก็บแบบสอบถามความพึงพอใจคำติชมต่างๆ แล้วนำมาปรับปรุงและพัฒนาต่อไป เพื่อให้เสียโอกาสการขายน้อยที่สุด หรือศึกษารูปแบบขององค์กรที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการลูกค้า One-stop-service อาทิ เครือข่ายมือถือ ธนาคารชั้นนำของประเทศ ธุรกิจ SME อาจจะไม่ต้องลงทุนทำ Full Service เพียงแค่สร้างความประทับใจให้ลูกค้าและความสะดวกสบายให้ลูกค้าในระดับเบื้องต้น ก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้พร้อมกับสร้างความประทับใจได้อีกด้วย ทุกองค์กรควรจะศึกษาและหมั่นพัฒนาศักยภาพอยู่เสมอ และคงมาตรฐานการให้บริการโดยไม่แบ่งแยกชนชั้น เพื่อไม่สร้างความเหลือมล้ำและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร