การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งเดียวที่มีอยู่เสมอ ชาร์ลส์ ดาร์วิน บิดาแห่งทฤษฎีวิวัฒนาการได้กล่าวไว้ว่า “สิ่งมีชีวิตหรือสายพันธุ์ที่จะอยู่รอดได้ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรงที่สุดหรือฉลาดที่สุดหรอกนะ หากแต่ว่าเป็นผู้ที่ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุดต่างหากล่ะ”

อันที่จริงความเข้าใจนี้ไม่เคยปรากฏให้เห็นชัดเท่ากับในยุคปัจจุบันนี้เลยเมื่อธุรกิจต้องก้าวไปยืนอยู่ที่จุดเปลี่ยนของการทำธุรกิจแบบเดิมกับการทำธุรกิจแบบใหม่ เช่น อนาล็อกกับดิจิตอล ออฟไลน์กับออนไลน์ คำถามไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่การทำกำไรอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นเรื่องของการอยู่รอดในระยะยาว

ดังนั้น อะไรล่ะคือสิ่งที่เป็นสะพานเชื่อมต่อให้เกิดการอยู่รอดในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา? คำตอบนั้นง่ายมาก นั่นคือ Digital transformation

ง่ายๆ ก็คือว่า digital transformation เป็นการผสานเทคโนโลยีดิจิทัลรวมเข้ากับทุกส่วนของธุรกิจ ด้วยเหตุนี้มันคือการเปลี่ยนความคิดในขั้นตอนการดำเนินงานและการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า ในอีกระดับหนึ่งก็คือการเปลี่ยนความคิดความเชื่อที่ต้องการให้องค์กรต่าง ๆ เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับสถานะที่เป็นอยู่ การทดลอง และการรับเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้

มีเหตุผลหลายประการที่ธุรกิจอาจต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเข้าสู่ digital transformation แต่เหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดแล้วก็คือพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น มันเป็นเรื่องของการก้าวทันยุคสมัยหรือกลายเป็นล้าหลัง

จากผลการศึกษาของ Mircrosoft พบว่า 80% ของผู้นำธุรกิจในเอเชียเชื่อว่าพวกเขาต้องก้าวสู่ digital transformation เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ Ralph Haupter, President, Microsoft Asia. กล่าวว่า "ผลการศึกษาของ Microsoft Asia Digital Transformation ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้นำทางธุรกิจได้เริ่มแสดงท่าทีต่อความจำเป็นในการก้าวสู่ digital transformation เพื่อรับมือกับความท้าทายและโอกาสในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ในภูมิภาคนี้ บทเรียนจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ผ่านมาได้สอนเราว่าองค์กรใดที่เปลี่ยนแปลงได้ไม่รวดเร็วพอก็จะไม่สามารถแข่งขันกับใครได้ หรือไม่ก็ล้าสมัยไปเลยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการแทนที่ในทุกอุตสาหกรรม

ทำไม SMEs ต้องเปลี่ยนตัวเองสู่ digital transformation?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ที่จะได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงสู่ digital transformation

1. ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันกับบริษัทขนาดใหญ่

การนำดิจิทัลเข้ามาใช้จะเปิดโอกาสในการแข่งขันกับองค์กรขนาดใหญ่ ข้อจำกัดที่มักถูกมองว่าเป็นความท้าทายกับธุรกิจขนาดเล็กมักมาจากงบประมาณหรือทรัพยากรที่จำกัด และจำนวนพนักงานที่น้อยกว่า ในหนังสือ The New Small ของ Phil Simon สำรวจพบว่า เทคโนโลยีอย่างไหนที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันของธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจขนาดใหญ่ SMEs ที่มีความเฉียบแหลมและมีความคล่องตัวสามารถรับเอาเทคโนโลยีมาได้ง่ายกว่าอีกฝ่ายที่มีขนาดใหญ่ และสิ่งนี้ทำให้พวกเขามีข้อได้เปรียบในการเริ่มต้น

2. เป็นผู้นำในการแข่งขัน

SMEs จะไม่สามารถที่จะชะล่าใจหรือประมาทได้เมื่อมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ มิฉะนั้นก็เสี่ยงต่อการที่จะถูกคู่แข่งของพวกเขาไล่ตามจนทัน ตามรายงานการวิจัยของ Forrester Research พบว่าผู้บริหารทั้งหลายคาดการณ์ว่าในปี 2563 เกือบ 47% ของรายได้จะได้รับผลกระทบจากดิจิทัล

3. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ SMEs มีประสิทธิภาพมากขึ้น เทคโนโลยี เช่น IoT ช่วยให้ SMEs สามารถรวบรวมข้อมูลมหาศาลและดึงข้อมูลเชิงลึกได้โดยผ่านการวิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อปรับปรุงยกระดับในสิ่งที่มีเหมือน ๆ กัน องค์กรที่อยู่ในสายการผลิต การค้าปลีก และการดูแลสุขภาพจะสามารถดำเนินการตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ หรือแม้ก่อนที่จะแก้ปัญหาของลูกค้าด้วยซ้ำ SMEs สามารถได้รับประโยชน์จากกระบวนการภายในที่รวดเร็วและมีข้อผิดพลาดน้อยลงเมื่อได้รับข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและถูกต้องมากขึ้น

4. เพิ่มกำลังแรงงาน

เทคโนโลยี เช่น Artificial Intelligence (AI) ช่วยทำงานโดยอัตโนมัติกับงานที่ต้องเสียเวลานาน ๆ สิ่งนี้ช่วยให้พนักงานสามารถโฟกัสไปที่งานที่ต้องใช้ทักษะและมีกลยุทธ์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และลดต้นทุนการดำเนินงาน การทำงานอัตโนมัติยังช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานเพราะพนักงานในทีมไม่ต้องไปทำงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ และเสียเวลานาน ๆ

5. ชักชวนลูกค้า

เทคโนโลยีมีมอบโอกาสมากมายในการดึงดูดและรักษาลูกค้าไว้ จากร้านค้าออนไลน์ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการตอบรับที่แข็งแกร่ง และการสร้างโปรแกรมให้เกิดความภักดีที่กำหนดได้เอง เทคโนโลยีนี้จะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ไม่มีขอบเขตและทำให้ทุกคนมีส่วนร่วม

6. เพิ่มผลกำไร

การใช้เทคโนโลยีทำให้ SMEs มีผลกำไรมากขึ้น จากการสำรวจของ Gartner พบว่า 56% ของการสัมภาษณ์ผู้บริหารต่างกล่าวว่า การลงทุนในเรื่องดิจิทัลของพวกเขาให้ผลกำไรดีขึ้นแล้ว

สุดท้ายสำหรับคนที่ยังปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง จงรีบทำซะตอนนี้เพื่อความอยู่รอดของคุณเอง