321 week ago — ใช้เวลาอ่าน 2 นาที
จากการที่ผมได้มีโอกาสไปทำงานร่วมกับลูกค้าเวียดนามซึ่งเขาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ ดูตามตัวเลขผลประกอบการแล้ว ก็เห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยอดขายและผลกำไรก็เป็นไปตามที่คาดไว้ และจะเป็นอย่างนี้อีกอย่างน้อย 4-5 ปี ถ้าไม่สะดุดขาของตัวเองก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมให้ความเห็นกับเขาคือ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เราไม่สามารถรับประกันได้ว่า ณ ผลงานตอนนี้จะยังคงอยู่ตลอดไปในปีหน้า ปีโน้น ปีนั้น (แต่ผมคิดว่าใน 3-5 ปีข้างหน้านี้ธุรกิจของเขาน่าจะมั่นคงมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามโตแบบน่าอิจฉามาก) ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่เราสามารถทำได้คือการ “กระจายความเสี่ยง” เพื่อความไม่ประมาทในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งการดำรงชีวิตของเราครับ วิธีการก็มีหลายวิธี เช่น
1. การเพิ่มฐานลูกค้าในช่องทางใหม่ ๆ ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้มากกว่า 80% ขายให้กับลูกค้าโรงงาน ก็ต้องเพิ่มช่องทางไปทางโรงแรม โรงพยาบาล ร้านอาหาร หรืออื่น ๆ
2. การเพิ่มรายสินค้าใหม่ให้มากขึ้น โดยอาจจะใช้หลักการของพาเรโต กฏ 80:20 มาเป็นหลักในการวิเคราะห์ ยกเลิกสินค้าที่ทำรายได้ให้เราแค่ 20% แล้วไปหาสินค้าที่มี Potential ใหม่ ๆ เข้ามาแทน เป็นต้น
3. การเพิ่มพื้นที่ในการขายให้กว้างขึ้น แทนที่จะทำเฉพาะที่ฮานอย ก็อาจจะต้องขยายไปไหฟ่อง บั๊คนิน บั๊คยาง หรือที่อื่น ๆ
4. การหา supplier สินค้าอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง แทนที่จะมียอดขายมากกว่า 50% ใน supplier เพียงรายเดียวหรือสองราย เปรียบได้กับการขี่จักรยาน การขับขี่รถสามล้อและรถยนต์ ยังไง ๆ รถที่มี 4 ล้อ ย่อมมีความมั่นคงในการวิ่งมากกว่ารถที่มี 2 ล้อ หรือแม้กระทั่งรถ 3 ล้อ
5. การสืบเสาะหาสินค้าที่อาจจะสามารถทดแทนสินค้าที่เป็นสินค้า Top ในการขายของเราอยู่ ในกรณีที่ supplier ปัจจุบันมีปัญหาด้านการ supply สินค้าให้กับเรา เช่น เครื่องจักรเสีย ภัยธรรมชาติทำให้ส่งสินค้าไม่ได้ ฯลฯ
การจะเลือกวิธีการใดก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งโอกาสทางการตลาดที่มีอยู่ จุดแข็งของเราที่สามารถไปตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดใหม่ ๆ เหล่านั้น เป็นต้น
Most read this week
Trending
Comments
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion