เมื่อคิดจะโฆษณาสินค้าอะไรสักอย่างเชื่อว่าเจ้าของธุรกิจก็คงอยากจะให้ได้ผลว่าสินค้านั้นขายได้ขายดี แต่การตั้งหน้าตั้งตาที่จะโฆษณาขายกันแบบตรงๆ โดยไม่มีเทคนิคหรือวิธีการขายที่แยบยลพอ บางครั้งก็อาจทำให้การโฆษณาของเราดูเป็นการยัดเยียดสินค้าไปเสียมากกว่า นอกจากจะไม่สร้างความประทับใจแล้วยังอาจทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกไม่ดีด้วยซ้ำไป

การที่จะโฆษณาหรือโปรโมทสินค้ายังพอมีวิธีที่จะช่วยเลี่ยงวิธีการขายตรงๆ ได้นั่นคือ การสร้างคอนเทนต์ที่ดี มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า มีคุณค่าดีพอที่จะแชร์ต่อไป เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพราะในการทำคอนเทนต์แต่ละครั้งต้องมีการศึกษาข้อมูลก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายคือใครกันแน่ เนื้อหาสาระที่นำเสนอต้องน่าสนใจ เข้าใจง่าย น่าเชื่อถือ ไม่เน้นการขายมากจนเกินไป ระวังในเรื่องของการเขียน การใช้ภาษาให้ถูกต้อง ถูกกาลเทศะ การออกแบบก็มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย การเลือกภาพประกอบต้องเลือกให้เหมาะสม

7 องค์ประกอบของคอนเทนต์ที่ดี

1. สร้างขึ้นได้เหมาะสม ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย

2. ข้อมูลเป็นประโยชน์ เข้าใจง่าย และสนุกสนาน

3. สอดคล้องกับเป้าหมายทางการตลาด

4. สามารถที่จะแชร์ต่อไปได้ง่ายดายและรวดเร็ว

5. เนื้อหามีส่วนเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์และบริการอย่างน้อยหนึ่งผลิตภัณฑ์

6. กระตุ้นให้มี call to action อยู่เสมอ

7. ต้องวัดและสร้างผลตอบแทนกลับคืนได้

คอนเทนต์มีหลายรูปแบบซึ่งสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสิ่งที่จะนำเสนอได้ ข้อมูลที่น่าสนใจจากหนังสือ “ติดอาวุธให้แบรนด์ พุ่งแรงในโลกดิจิทัล” โดย ณัฐวีร์ ตันติสัจธรรม ได้แบ่งคอนเทนต์เป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ

1. คอนเทนต์ประเภทตัวอักษร จะสร้างความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญอย่างมาก ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบคือ บล็อกโพสต์ กรณีศึกษา อีบุ๊ก และเว็บไซต์

2. คอนเทนต์ประเภทกราฟิกรูปภาพ จะสร้างการรับรู้และจดจำได้อย่างรวดเร็ว ทำได้หลายแบบ เช่น รูปภาพคำคม อินโฟกราฟิก สไลด์ รูปถ่าย

3. คอนเทนต์ประเภทวิดีโอ แบ่งเป็น 3 แบบคือวิดีโอที่เล่าเรื่องเน้นสะท้อนอารมณ์ เข้าถึงใจผู้ชม วิดีโอการสอนให้ความรู้แก่ลูกค้า และบล็อกวิดีโอที่บันทึกชีวิตประจำวันของแบรนด์ ที่สำคัญต้องให้ความสำคัญกับ 3 วินาทีแรกที่ต้องดึงความสนใจผู้ชมให้อยู่ให้ได้

4. คอนเทนต์ประเภทปฏิสัมพันธ์ คือการให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับเรา เช่น คอนเทนต์ประเภทคำถาม หรือแบบสอบถาม

4 วิธีสร้างคอนเทนต์ดีที่ไม่ขายของ

1. เน้นคุณภาพ แทนปริมาณ ต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ มีข้อมูลน่าสนใจ น่าเชื่อถือได้ มีความเฉพาะ และมีรายละเอียดที่ลึกมากพอ ซึ่งควรต้องมีการออกแบบสร้างสรรค์ออกมาให้ดูสวยงามที่สำคัญเรื่องของการใช้ภาษาก็ควรจะต้องใช้ให้ถูกต้องด้วย

2. ไม่ขายของมากจนเกินไป การตั้งหน้าแต่จะขายของมากจนเกินไปอาจทำให้คนเบื่อและปฏิเสธทันที ทางที่ดีด้วยจะขายเมื่อลูกค้าพร้อมจะซื้อของของเราดีกว่า

3. เลือกใช้ให้ถูก คอนเทนต์ที่มีความสดใหม่หรืออยู่ในความสนใจ ซึ่งจะสร้างได้ไม่ยาก จะสร้าง Traffic ที่ดี แต่ก็จะมาไวไปไว กับอีกแบบที่สร้างได้ยากกว่า ลงลึกในรายละเอียด ไม่ตามกระแส แต่คอนเทนต์แบบนี้เรียกว่ามีคุณค่าจะอยู่ได้นานกว่าแบบแรก ซึ่งคงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และจังหวะเวลา

4. อาศัยเวลาและความขยัน เหมือนกันการปลูกต้นไม้ที่เราต้องหมั่นรดน้ำพรวนดินอยู่ทุกวัน ต้องดูแลเอาใจใส่ รอวันที่ผลผลิตผลิบาน ดังนั้นก็ต้องอาศัยความขยันที่จะผลิตคอนเทนต์ให้ออกมาสม่ำเสมอ ไม่มีอะไรที่จะเห็นผลในวันสองวัน ทุกอย่างต้องอาศัยเวลา

การที่จะทุ่มเงินที่จะโฆษณาขายของเพียงอย่างเดียวอาจเป็นการสูญเปล่าและไม่ได้ผลอะไรกลับคืนมาเท่าที่ควร ลองหันมาใช้วิธีสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ ที่อาจต้องอาศัยเวลาและการจัดทำบ้าง แต่ผลที่จะได้รับกลับคืนมานั้น รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน