เปิดร้าน Hang out ดึงลูกค้าจากออนไลน์สู่ยอดขายจริง

เปิดร้าน Hang out ดึงลูกค้าจากออนไลน์สู่ยอดขายจริง

สุขภาพและไลฟ์สไตล์

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

363 week ago — ใช้เวลาอ่าน 6 นาที

เคยไหมที่ว่าเปิดแอปโซเชียลมีเดียมา ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ ฯลฯ เห็นภาพอาหารในฟีดแล้วอยากตามไปกิน เห็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวแล้วอยากตามไปเช็คอิน เห็นภาพที่พักแล้วอยากตามไปพัก หรือแม้แต่เห็นบรรยากาศร้านนั่งชิวที่ไหนสักแห่งแล้วอยากนัดชาวแก๊งไปแฮงเอ้าต์กันเย็นนี้เลย

 

SME หลายรายเลือกที่จะทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ด้วยตัวเอง ในกรณีที่เราเปิดร้านอาหารร้านหนึ่งและต้องการเพิ่มยอดขายจากการดึงผู้คนในโลกออนไลน์ให้เข้ามาใช้บริการที่ร้านจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงการมองเห็นผ่านฟีดเท่านั้น โพสต์ย่างไรให้เกิดความประทับใจจนต้องตามมากินให้ได้ ก่อนอื่นคงต้องทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายบนสังคมออนไลน์ซะก่อน แล้วจึงมาคัดเลือกเนื้อหาและรูปแบบที่เราจะสื่อสารไปถึง จากนั้นจึงเลือกโซเชียลมีเดียให้เหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น และอย่าลืมที่จะหาคนที่มีความสามารถมาดูแลงานนี้ด้วย

 

วิธีหนึ่งที่เราพอจะเพิ่มยอดขายได้ด้วยตัวเองนั่นคือการใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย ซึ่งประโยชน์ที่เราพอจะเห็นได้ชัดเจนก็คือการสร้างความมีส่วนร่วมของลูกค้า หากเราสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างเต็มที่จะช่วยสร้างยอดขายให้กับร้านของเราได้มากทีเดียว ทำอย่างไรให้โซเชียลมีเดียสามารถชักนำลูกค้าให้มาใช้บริการร้านของเราได้จริงๆ

 

1. เลือกโซเชียลมีเดียที่คิดว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลักของร้านจริงๆ หากลุ่มเป้าหมายของเราให้เจอจริงๆ เสียก่อนว่าเป็นใคร เป็นคนกลุ่มไหน เราจะได้เลือกใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น ถ้าเป็นกลุ่มวัยทำงานอาจจะเลือกใช้เฟซบุ๊ก ยูทูป ไลน์ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ส่วนวัยรุ่นอาจชอบใช้ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม กลุ่มผู้สูงวัยอาจเน้นไปที่ไลน์ เฟซบุ๊กฯลฯ

 

2. ตกแต่งบรรยากาศร้านให้ดูดีมีสไตล์ที่โดดเด่น จัดให้มีมุมสวยๆ ไว้แชะรูปหลากหลายมุม แล้วเราอาจเลือกโพสต์รูปเจ๋งๆ ของร้านที่ทำให้ลูกค้าอยากมาเยือนด้วยตัวเอง หรืออยากมาเช็กอินให้ได้

  • ภาพมาก่อน คนส่วนใหญ่มักจะดูที่ภาพก่อนอื่น ภาพโดนใจถึงจะหยุดดู หรืออ่านข้อความอื่นๆ ดังนั้นเลือกภาพที่คิดว่าจะถูกใจกลุ่มเป้าหมายของเราจริงๆ ทำร้านนั่งชิวอาจจะเสนอรูปบรรยากาศของการสังสรรค์ที่ให้ความรู้สึกเชิงบวก มาเป็นครอบครัว หรือแค่เพื่อนสนิทกลุ่มเล็กๆ ก็ยังได้ แต่ขอให้ได้บรรยากาศอบอุ่น ไม่เหงา ไม่เดียวดาย ฯลฯ

  • โพสต์ภาพแบบเจาะเป็นกลุ่มๆ ไปก็ดีเหมือนกัน บางทีการโพสต์ภาพแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายไปเลยก็ทำให้สามารถสื่อสารได้ตรงกว่าการโพสต์ภาพแบบกลางๆ

  • อย่าให้เป็นการตั้งใจขายของเกินไปนัก อย่าลืมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบการฮาร์ดเซลล์หรือยัดเยียดอะไรมากจนเกินไป ให้คิดว่าเราอยากเสนอสิ่งที่ดีๆ เช่น ภาพบรรยากาศที่ช่วยลูกค้าผ่อนคลายได้ และสถานที่จริงๆ ก็น่าจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของลูกค้าได้

  • ภาพบรรยากาศพนักงานกำลังทำงานก็ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบหนึ่ง เพราะลูกค้าอาจอยากสัมผัสบรรยากาศจริงแบบรูปถ่ายก็ได้

  • นอกจากภาพนิ่งสวยๆ วิดีโอก็ใช้ได้ผลอย่างมากในยุคนี้ สามารถสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำอาหารของร้าน การตกแต่งจานอาหารหรือเครื่องดื่มให้ดูดีน่ากิน บรรยากาศจริงๆ ของร้าน หรือทุกเรื่องราวแล้วแต่จะครีเอทกันออกมา

 

3. นอกจากภาพสวยๆ เนื้อหาที่สื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมายก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ถ้าภาพสวยๆ เป็นหมัดฮุก เนื้อหาที่สื่อสารไปก็อาจจะเป็นหมัดน็อคชนะใจก็เป็นได้ หลักการให้และรับยังมีความสำคัญอยู่เสมอ นอกจากการใช้ภาพดึงดูดใจแล้ว คุณประโยชน์ของเนื้อหาก็มีส่วนช่วยให้ภาพลักษณ์ของร้านเราดีขึ้น เลือกเนื้อหาที่ให้ประโยชน์และแสดงความจริงใจกับกลุ่มเป้าหมาย ถ้าสามารถถึงขั้นที่เป็นที่พึ่งในการให้คำตอบได้ด้วยจะดีมาก เนื้อหาอาจจะเป็นเรื่องของอาหารที่มีประโยชน์แม้จะเป็นการสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูงก็สามารถเลือกเมนูที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ หรืออาจเป็นวิธีการสนทนาให้เกิดความรู้สึกเชิงบวก และอื่นๆ อีกมากมาย

 

4. จัดอีเว้นท์หรือกิจกรรมพิเศษโดยอาศัยการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียก็เป็นวิธีที่น่าสนใจในการดึงลูกค้าเข้าร้าน การมีกิจกรรมพิเศษ เช่น มีคอร์สอบรม เวิร์คชอปที่ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายของเรา มีคอนเสิร์ตเล็กๆ เฉพาะกลุ่ม เฉพาะแนว หรืออาจเป็นการแสดงงานศิลปะ พูดคุยสัมมนา ปาร์ตี้ แฟนมีทติ้ง ฯลฯ ผู้ที่เข้าร่วมงานแต่ละครั้งอาจกลายเป็น Influencer ใหม่ให้คุณได้ด้วย ยิ่งคนเหล่านี้มีคนติดตามมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดีกับร้าน จงผูกสัมพันธ์กับเขาไว้ให้ดีๆ เขาอาจจะช่วยโปรโมตร้านของคุณอย่างคิดไม่ถึงเลยทีเดียว

 

5. มีปฏิสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดียกับทุกรีวิว ทุกคอมเม้นท์ ของทุกคนด้วยไมตรี แชร์ภาพของลูกค้าที่มาใช้บริการลงเพจ จัดกิจกรรมออนไลน์ เล่นเกมแจกของรางวัล มีข้อคิด คำพูดดีๆ สร้างกำลังใจ หรือคำคมโดนๆ สร้างความรู้สึกเป็นกันเองกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

 

6. อย่าหลุดจากกระแส เพราะเพจของคุณจะได้รับความสนใจอยู่เสมอไม่ตกเทรนด์ หากคุณสามารถนำเสนอแง่มุมที่น่าสนใจด้วยจะยิ่งได้รับความสนใจ อย่างน้อยชื่อของร้านก็จะเป็นที่รู้จัก แต่ต้องระวังในเรื่องของการเล่นกับกระแสที่ต้องอยู่บนความพอดีและไม่ทำร้ายใคร ถูกกาลเทศะ

 

ในการสื่อสารเพื่อดึงลูกค้าจากช่องทางออนไลน์ก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วยเช่นกัน คือ อย่าตั้งใจขายของมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกแง่ลบมากกว่า ต้องไม่จัดกิจกรรมอะไรที่เราทำไม่ได้จริงๆ ต้องยืนอยู่บนความจริงใจ และมีความสม่ำเสมอในการโพสต์

 

ทั้งหมดข้างต้นน่าจะเป็นวิธีการที่เจ้าของร้านน่าจะพอทำได้เอง แต่หากว่าไม่ถนัดจริงๆ ก็ควรมองหาคนที่พอมีความรู้ความสามารถเข้ามาเสริมทัพช่วยอีกแรง อย่าปล่อยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายแค่มากดไลค์กดแชร์เท่านั้น ลองพยายามทำให้เขาได้รับประสบการณ์จริงๆ จากร้านเราให้ได้ สุดท้ายก็คงเป็นเรื่องของคุณภาพและบริการของร้านเรานี่แหละที่จะทำให้ไม่ใช่เป็นแค่การชนะน็อคแต่จะเป็นการชนะใจในที่สุดนั่นเอง

 

เปิดร้าน Hang out ดึงลูกค้าจากออนไลน์สู่ยอดขายจริง

Comments