342 week ago — ใช้เวลาอ่าน 5 นาที
ชีวิตในเมืองปัจจุบันจะว่าจัดการยากก็ยาก ง่ายก็ง่าย อยู่ที่ว่าเรารู้จักที่จะวางแผนที่ดีหรือไม่ การแข่งขันหลายๆ ในแต่ละวันอย่างอาจสร้างความกดดันให้กับเราได้ ความเครียดจึงก่อเกิดและนำไปสู่โรคภัยต่างๆ ตามมา แต่การแสวงหาความสุขก็ไม่ได้ยากเย็นจนเกินไปนัก อาจจะต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันก่อน สุดท้ายก็จะสามารถฟื้นฟูได้ทั้งสภาพร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ และนี่อาจเป็นแนวทางง่ายๆ ที่คุณเองสามารถทำได้อย่างแน่นอน
แค่เริ่มจาก 0-10 ชีวิตในเมืองก็สุขได้
0 ชั่วโมง - ลดเวลาการอยู่หน้าจอทั้งมือถือหรือโทรทัศน์ ลดลงให้ได้ครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย
ทุกวันนี้มีสถิติว่าคนไทยใช้เวลาเข้าอินเทอร์เน็ตต่อวันมากที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ชั่วโมง 38 นาทีต่อวัน และถ้าวัดเฉพาะการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน “ไทย” ยังคงเป็นประเทศที่ใช้เวลาท่องเน็ตต่อวันมากที่สุดในโลกเช่นกัน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 56 นาที หรือเท่ากับครึ่งวันทำงานเลยทีเดียว ควรลดพฤติกรรมนี้ และเอาเวลาเกือบครึ่งวันที่หายไปกลับมาให้ตัวเองได้ทำอย่างอื่นที่อาจจะเป็นประโยชน์มากกว่า
1 ชั่วโมง - ออกกำลังกาย คลายเครียด เพิ่มศักยภาพของร่างกายและจิตใจ
การออกกำลังกายจะช่วยให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและจิต มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายมักเป็นโรคที่เรียกว่าออฟฟิศซินโดรม ควรหาเวลาไปออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ทิ้งคำพูดที่ว่า “ไม่มีเวลา” ไปซะ ต้องรักตัวเองก่อนสิ่งอื่น
2 ลิตร - ปริมาณน้ำที่ควรดื่มให้ได้ในหนึ่งวัน
ในหนึ่งวันร่างกายสูญเสียน้ำไปจากการปัสสาวะเฉลี่ยวันละประมาณ 15 ลิตร และจากการหายใจและเหงื่ออีกเกือบถึง 1 ลิตร เราควรดื่มน้ำโดยเฉลี่ยให้ได้วันละประมาณ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป การดื่มน้ำสำคัญต่อร่างกายเพราะทําให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทํางานได้ดี และช่วยทําให้ผิวพรรณสดใส
3 ถ้วย - ดื่มชาเขียวร้อน (Green Tea) วันละ 3 ถ้วยในระหว่างมื้ออาหาร
สารต่างๆ ที่พบในชาเขียวมีผลในการยับยั้งภาวะโรคต่างๆ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมัน ลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด ต่อต้านการเกิดโรคของหลอดเลือดหัวใจ แต่การบริโภคชาเขียวอย่างไม่เหมาะสม เช่น บริโภคในปริมาณสูงและติดต่อกันเป็นเวลานานสามารถส่งผลเสียต่อตับได้
4 ช่วง - พักเบรกช่วงสั้นๆ ในแต่ละวันสัก 4 ช่วงเวลา
มีการศึกษาพบว่าการได้หยุดพักเป็นระยะในระหว่างวันจะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สมองที่ได้พักจะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรแบ่งการพักออกเป็นช่วงๆ วิธีการพักที่ดีที่สุดคือการไม่ทำอะไรเลยประมาณ 5 นาที และการได้พักเบรกไปพร้อมกับเพื่อนร่วมงานก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน จะทำให้ประสิทธิผลของการทำงานเพิ่มขึ้นได้
5 มื้อ - แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ
การกินอาหาร 5 มื้อต่อวันช่วยให้ผอมลงได้ เพราะการกินอาหารปริมาณน้อยๆ หลายๆ มื้อต่อวัน ช่วยบรรเทาความหิวได้มากกว่ามื้อหนักสามมื้อ และยังทำให้มีโอกาสการเกิดไขมันน้อยลงกว่าปกติ การทานอาหาร 5 มื้อต่อวันโดยทิ้งช่วงกัน 3 ชั่วโมงจะทำให้ร่ายกายเผาผลาญได้ดีขึ้น
6 AM - ช่วงเวลาที่ควรตื่นนอนเป็นประจำทุกช้า
คนเราควรเข้านอนตั้งแต่เวลา 22.00-06.00 น. การนอนไม่พอจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ช่วงเวลาตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะขับถ่ายของเสียออกมาได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
7 อย่าง - ผ่อนคลายด้วยการหัวเราะบ้าง ได้ประโยชน์ถึง 7 อย่าง
ช่วยลดอาการเจ็บปวด หากเรากำลังเจ็บปวด ร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้หัวเราะออกไป
หัวเราะแก้ซึมเศร้า ร่างกายจะหลั่งสารซีโรโทนินและโดพามีนมากขึ้นเมื่อหัวเราะ ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
เพิ่มภูมิคุ้มกัน การหัวเราะช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
ลดน้ำหนัก ความเครียดทำให้รู้สึกเกิดความอยากอาหารได้ แต่ถ้าได้หัวเราะช่วงสั้นๆ จะทำให้ความอยากอาหารน้อยลง
บริหารหัวใจ หัวเราะเพียง 15-20 นาที เป็นการทำให้หัวใจได้ออกกำลังกายอย่างง่ายๆ
บริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้า และกล้ามเนื้อบริเวณร่างกายได้ออกกำลังไปด้วย
รับออกซิเจนเข้าปอดได้อย่างเต็มที่ การหัวเราะช่วยให้มีการหมุนเวียนอากาศในปอด ร่างกายจะขับอากาศเสียและรับออกซิเจนเข้าปอดได้เต็มที่
8 ชั่วโมง - นอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
การนอนไม่ถึงวันละ 8 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายมีความอยากอาหารเพิ่มมากขึ้น ชั่วโมงในการนอนหลับของแต่ละคนขึ้นอยู่กับช่วงอายุหรือวัย ยิ่งอายุน้อยยิ่งต้องการนอนมาก
9 PM - หมดเวลาสำหรับกิจกรรมต่างๆ เป็นเวลาที่ควรเริ่มเข้านอน
ช่วงเวลาในการเข้านอนก็สำคัญไม่น้อย เวลาที่แนะนำคือไม่ควรเกิน 4 ทุ่มและ ในช่วง 21.00 น. เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับเตรียมตัวเข้านอน ทำจิตใจให้สบาย พักผ่อนนอนเล่น เริ่มสวดมนต์ นั่งสมาธิ เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เพราะจะทำให้นอนไม่หลับได้
10 นาที - สวดมนต์และนั่งสมาธิก่อนนอนสัก 10 นาที
การสวดมนต์นั้นนอกจากทำให้มีสติ จิตใจสงบ ยังส่งผลดีต่อร่างกายคือมีการหลั่งสารความสุขออกมา ร่างกายจะแข็งแรง ใบหน้าสดใส นอนหลับง่าย ตื่นมาจึงรู้สึกสดชื่น
การมีความสุขจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้ว เริ่มเร็วก็มีความสุขเร็ว ฉะนั้นเริ่มในวันนี้เลยนั่นแหละ...ดีที่สุด
คอมพิวเตอร์ควอนตัมคืออะไร ส่งผลกับโลกของเรายังไง?
248 week ago
มาทำความเข้าใจกับยุค Crowd-based Capitalism
248 week ago
Most read this week
Trending
Comments
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion