สร้างธุรกิจท่องเที่ยวโกยเงินจากนักท่องเที่ยวจีน

สร้างธุรกิจท่องเที่ยวโกยเงินจากนักท่องเที่ยวจีน

สุขภาพและไลฟ์สไตล์

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

336 week ago — ใช้เวลาอ่าน 6 นาที

ประเทศไทยยังคงถือเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมสำหรับชาวจีนอยู่ เห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว (2559) ที่มีถึง 8,222,526 คน รั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปถึง 9 ล้านคนในปีนี้ แม้ที่ผ่านมาอาจจะมีการชะงักงันอยู่บ้างก็ตาม แต่ด้วยข้อได้เปรียบในเรื่องของระยะทางที่ถือว่าใกล้กันมาก ความสะดวกสบายในการเดินทาง รวมไปถึงเที่ยวบินที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยเหล่านี้ยังทำให้ช่องทางในการดึงดูดเม็ดเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงมีหนทางเปิดกว้างอยู่ไม่น้อย

 

จากผลงานวิจัยของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ในงานวิจัย "หนีห่าว มาร์เก็ตติ้ง" เคล็ดลับมัดใจนักท่องเที่ยวจีนสไตล์ FIT พบว่านักท่องเที่ยวชาวจีน นิยมรูปแบบการเดินทางท่องเทียวเป็นกลุ่มด้วยตัวเอง หรือ FIT (Free and Independent Traveler) มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวในวัยหนุ่มสาว วัยทำงานที่มีกำลังซื้อสูง มีการศึกษาสูง โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จะค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ รวมไปถึงตั๋วเครื่องบิน ที่พัก แหล่งช็อปปิ้ง บริการต่างๆ ด้วยตนเองทางอินเทอร์เน็ต โดยผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียภายในประเทศ อย่างเช่น Youku (YouTube), RenRen (Facebook), Weibo (Twitter), Wechat (Line) หรือเซิร์ชเอนจิ้งที่ชาวจีนนิยมคือ Baidu (Google), Mafengwo Qyer (Tripadvisor), Ctrip (Expedia) ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทยควรที่จะได้ศึกษาข้อมูลในเรื่องการใช้ช่องทางออนไลน์ต่างๆเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจก็จะถือเป็นข้อได้เปรียบมากขึ้น

 

ก่อนที่เราจะพูดถึงการวิธีการผูกมัดใจนักท่องเที่ยวจีนให้อยู่หมัด เราคงต้องทราบถึงวิถีในการท่องเที่ยวของพวกเขาเสียก่อน เพื่อที่จะเตรียมการรับมือได้แบบมืออาชีพ ข้อมูลจากการวิจัยดังกล่าวพบว่า ชาวจีนนั้นมักจะใช้เวลาในการท่องเที่ยวทริปหนึ่งประมาณ 5-7 วัน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณคนละ 25,000-50,000 บาท โดยนิยมการชำระสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ของจีนอย่าง Alipay หรือแอปพลิเคชันอย่าง Wechat แต่การจ่ายด้วยเงินสดก็ยังคงมีอยู่บ้างแต่น้อยกว่า อาจเพราะไม่สะดวกในการพกพาเงินสดจำนวนมากๆ และสังคมจีนในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีด้านการเงินในวงกว้าง ดังนั้น หากผู้ประกอบการธุรกิจไทยสามารถอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ได้จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของพวกเขาเช่นกัน

 

ด้วยความที่นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ของจีนสามารถกำหนดรูปแบบการท่องเที่ยวด้วยตัวเองได้เกือบทั้งหมด ดังนั้นความคาดหวังในเรื่องของความพึงพอใจที่จะได้รับกลับคืนมาย่อมต้องสูงเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพและการบริการต่างๆ ความหลายหลาย แปลกใหม่ และคุ้มค่า แต่ถึงกระนั้นเสน่ห์ที่ยังคงชนะใจนักท่องเที่ยวจีนให้เลือกมาเยือนประเทศไทยอยู่ดี นั่นก็คือความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางธรรมชาติ ทะเลหรือภูเขา สถานที่สำคัญๆ รวมไปถึงแหล่งช็อปปิ้ง ฯลฯ เหล่านี้ยังคงดึงดูดใจได้อยู่เสมอ ต่อมาคือเรื่องของความคุ้มค่าเงินของสินค้าและบริการที่ได้รับ รสชาติของอาหารไทยที่ถูกปากและผลไม้ที่มีให้เลือกมากมายทุกดูกาล สุดท้ายคืออัธยาศัยไมตรีของคนไทยรวมถึงความงามของวัฒนธรรม ประเพณี จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวจีนยังคงไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เราต้องเสาะแสวงหามา แต่เป็นสิ่งที่เราต้องเพิ่มเติมเข้าไปให้มากยิ่งขึ้น คุณภาพระดับพรีเมี่ยม คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่นี้ต้องการ ในเรื่องของคุณภาพนี้ส่งผลถึงการบอกต่อในโลกโซเชียล และเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ โดยพฤติกรรมของชาวจีนรุ่นใหม่ที่เสพติดโซเชียลมีเดีย การแชร์ การรีวิวต่างๆ จึงทำได้ง่ายและเป็นที่เชื่อถือมากในระดับหนึ่ง

 

นักท่องเที่ยวชาวจีนถือเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายเงินระหว่างการท่องเที่ยวในจำนวนที่สูง กล้าที่จะจ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความพึงพอใจให้กับตนเอง โดยเฉพาะยอมจ่ายในเรื่องของที่พักและช็อปปิ้งอย่างมาก และยังชอบการเสาะแสวงหาของอร่อยในที่ต่างๆ อีกด้วย เรื่องเหล่านี้ การบอกต่อ การแชร์ การรีวิวในโลกโซเชียลมีผลต่อการตัดสินใจเลือกของพวกเขามากเลยทีเดียว นอกจากนี้ กิจกรรมต่างๆ ที่ชาวจีนสนใจก็เป็นเรื่องของความสุขภาพ ความงาม ความผ่อนคลาย อย่างการนวดแผนต่างๆ การทำสปาที่ยังได้รับความนิยมสูง นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมผลิตภัณฑ์ของไทย ขอให้มีการการันตีว่าเป็น Product Of Thailand ก็จะได้รับความไว้วางใจทันที สินค้าไทยที่ซื้อไปนอกจากจะนำไปใช้เอง ยังเป็นของฝาก และเป็นสินค้าที่นำขายต่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องสำอางของไทยติดอยู่ในลิสต์สินค้าที่มาแล้วต้องซื้อ อาจเพราะราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ และกระแสของชาวจีนที่รักสุขภาพและความงามมากขึ้น (อยากบอกอีกนิดว่าสาวจีนเป็นกลุ่มที่เดินทางมาเที่ยวเองเยอะกว่ากลุ่มอื่นๆ)

 

จากข้อมูลการวิจัยดังกล่าวข้างต้นได้สรุป 7 ลักษณะนักท่องเที่ยวชาวจีนสไตล์ FIT ไว้ดังนี้  1.ใช้อินเทอร์เน็ต 2.ติดโซเชียล 3.ท่องเที่ยวอิสระ 4.ดื่มด่ำวัฒนธรรมท้องถิ่น 5.เลือกความคุ้มค่า 6.มองหาพวกพ้อง 7.เพื่อนและการบอกต่อมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ

 

ข้อมูลข้างต้นพอจะมองเห็นช่องทางโกยเงินจากนักท่องเที่ยวชาวจีนบ้างแล้ว เราต้องมุ่งเน้นไปที่ คุณภาพ ก่อนเป็นประการแรก เพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่ๆ นี้ สามารถที่กำหนดทุกอย่างตามความต้องการได้ โดยการหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเป็นสำคัญ เราคงต้องนำเสนอจุดแข็งความเป็นไทยลงไปให้มากขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นเครื่องมือทำการตลาด อย่าลืมว่าการแชร์ความประทับใจ การรีวิวต่างๆ ส่งผลอย่างมากต่อการตัดสินใจ และยิ่งหากได้มาค้นพบด้วยตนเองแล้วว่าดีจริง ก็จะยิ่งทำให้เกิดการกลับมาใหม่อีกครั้งแน่นอน ความคุ้มค่า ทั้งคุณภาพและราคาของสินค้าบริการที่เป็นธรรม ต้องท่องไว้เสมอว่าไม่มีใครที่ชอบการโดนเอาเปรียบ ความมั่นใจ ในผลิตภัณฑ์ ต้องสร้างความไว้วางใจ ชัดเจน จริงใจ เป็นมิตร หากสามารถสื่อสารข้อมูลของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยภาษาจีนได้เลย และอาศัยคนที่ได้รับการยอมรับจากชาวจีนเป็นคนสื่อสารให้ ก็จะยิ่งสร้างความประทับใจให้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

Comments