นิทาน ตำนาน นิยาย เรื่องเล่า ฯลฯ คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้มาก่อนเลย เคยสังเกตกันบ้างไหมว่าเวลาที่เราได้ฟังเรื่องราวต่างๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง ความรู้ จินตนาการ ความรู้สึก สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อความคิด การจดจำ และการตีค่าของเราไม่น้อย ผู้คนมีเรื่องเล่า สถานที่ก็มีเรื่องเล่า ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนต่างมีเรื่องเล่า เช่นเดียวกัน แบรนด์ก็ต้องมีเรื่องเล่า แต่การเล่าเรื่องของแบรนด์จะส่งผลต่อการจดจำของลูกค้า อาจจะออกมาทั้งในแง่ดีและไม่ดีได้

ดังนั้นการจะเล่าเรื่องของแบรนด์จึงจำเป็นต้องมีการคัดสรรเรื่องราวที่จะนำมาเล่า ซึ่งเรื่องราวต่างๆ ที่สามารถจะนำมาเล่านั้นสามารถที่จะนำข้อมูลมาได้ทั้งจากผลิตภัณฑ์เรา จากแบรนด์ ตัวเจ้าของแบรนด์ พนักงาน และจากลูกค้าเอง บางเรื่องอาจไม่เคยมีใครรู้มาก่อน บางเรื่องอาจก่อให้เกิดเรื่องราวดีๆ ต่อไป หรือบางเรื่องก็อาจทำให้เรามองเห็นตัวเองมากขึ้นก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องที่จะนำมาเล่า “ควรเป็นเรื่องจริงหรือมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง” และ “เป็นเรื่องที่คิดว่าคนอยากฟัง”

เรื่องราวอะไรบ้าง...น่าเล่า

1. ปัญหาและอุปสรรค ที่สามารถฟันฝ่ามา กว่าจะมาถึงที่เป็นที่รู้จักของใครต่อใคร ได้ผ่านขวากหนามมาเท่าใด ลูกค้าอาจจะไม่รู้มาก่อนว่าสินค้าที่อยู่ในมือวันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง เรื่องราวที่ซ่อนอยู่นั้นอาจจะมาทั้งหยาดเหงื่อ น้ำตา และเสียงหัวเราะ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถนำมาสร้างเรื่องราวให้น่าจดจำได้

2. แรงบันดาลใจ ในการทำธุรกิจ อะไรคือสิ่งที่ผลักดันให้คุณสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมา มันต้องมีพลังที่ยิ่งใหญ่มากพอสมควร ลองย้อนกลับไปคิดถึงวันแรกที่คุณต้องการที่จะทำสิ่งนี้ขึ้นมา อาจมีเหตุการณ์ใดสักเหตุการณ์หนึ่งหรือใครบางคนที่มอบความฝันและพลังที่ทำให้คุณสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมาจนเป็นจริงได้ เราอาจจะส่งต่อสิ่งนี้ไปยังคนอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน

3. ความต่าง ของแบรนด์ สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้แบรนด์ชนะคู่แข่งมานักต่อนัก เป็นส่วนสำคัญที่ทุกแบรนด์ควรต้องมี จริงๆ น่าจะเป็นสิ่งแรกที่เรานึกถึงและเป็นหมัดเด็ดที่จะทำให้ลูกค้าจดจำเราได้ในทันที จริงๆ เมื่อคิดจะเล่าเรื่องของแบรนด์ ความแตกต่างจากคนอื่น น่าจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่เราเลือกจะนำมาเล่า

4. เรื่องราวความประทับใจจากลูกค้า เพราะลูกค้าคือคนสำคัญของธุรกิจ การใส่ใจต่อลูกค้าทุกคนจะทำให้ลูกค้าประทับใจในแบรนด์ของเราเช่นกัน เรื่องราวของลูกค้าอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของเราเลยแม้แต่น้อย แต่การนำเสนอเรื่องราวดีๆ ก็สามารถนำความชื่นชมกลับมาสู่แบรนด์ของเราได้เช่นกัน

วิธีการเล่าเรื่องก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่ทุกเรื่องที่นำเสนอออกไปแล้วจะประสบความสำเร็จ อาจเป็นเพราะเราเลือกวิธีการเล่าที่ไม่เหมาะสม การเล่าเรื่องอาจใช้วิธีการเล่าผ่านเจ้าของแบรนด์ ผ่านภาพยนตร์โฆษณา ผ่านสื่อ ณ จุดขาย ผ่านสื่อออนไลน์

5 วิธีการเล่าง่ายๆ ให้แบรนด์น่าจดจำ

• เข้าใจ สิ่งที่อยู่ในใจของลูกค้า เรื่องที่เล่าอาจต้องกระทบใจ

• ชัดเจน ในสิ่งที่แบรนด์เป็นอยู่ มีจุดยืนชัดเจน

• ต้องเป็นตัวเอง ทำเรื่องของเราให้ไม่น่าเบื่อและไม่จำเจ

• เล่าเรื่องแบบเทพนิยาย มีบทเริ่มต้น และมีตอนจบ

• มองมุมต่าง สร้างมุมมองใหม่ ทำให้เราแตกต่าง

การเล่าเรื่องนั้นมีข้อดีตรงที่สร้างผลกระทบต่ออารมณ์ของผู้ชมเป็นอย่างมาก นอกจากความบันเทิงแล้วยังสามารถสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ของแบรนด์หรือสินค้าต่อลูกค้าให้ได้ทราบถึงประโยชน์ที่แบรนด์จะมีให้ได้ สามารถแสดงตัวตนของแบรนด์ออกมาได้ชัดเจนกว่า สร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์และลูกค้า สร้างการจดจำที่ดีในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากการเล่าเรื่องของเราเป็นการยัดเยียดอะไรบางอย่างแก่กลุ่มเป้าหมายก็อาจกลายเป็นการทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่พึงหลีกเลี่ยงในการเล่าเรื่องคือ

- ยัดเยียดที่จะขายสินค้ามากเกินไป ทำให้เกิดความรู้สึกไม่จริงใจ

- ไม่ต่อเนื่องและไม่สม่ำเสมอ ทำให้เรื่องเล่านั้นถูกลืมหายไป

- ไม่มีเอกลักษณ์ หาความแตกต่างจากคนอื่นไม่ได้ ก็ไม่น่าจดจำ

สำหรับหัวใจในการสร้างเล่าเรื่องให้แบรนด์น่าจดจำก็มีเทคนิคง่ายๆ นำมาฝากกันคือ “มาจากเรื่องจริง-เป็นสิ่งโดนใจ-ให้ความต่อเนื่อง-ประเด็นเรื่องเดียว” หากใครกำลังคิดจะลองทำดู หวังว่าจะช่วยทำให้การเริ่มสร้างเรื่องราวให้แบรนด์ของคุณง่ายขึ้น และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว