351 week ago — ใช้เวลาอ่าน 3 นาที
ผู้ประกอบการหลายคนมักเป็นพวกบ้างานและทุ่มเทชีวิตให้กับธุรกิจ พวกเขาทำงานหามรุ่งหามค่ำจนมีเวลาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายน้อย นานวันเข้าอาจส่งผลให้เกิดความเครียด และโรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียดก็จะตามมา ซึ่งความเครียดนี่เองที่เป็นบ่อเกิดแห่งโรคต่างๆ
แล้วเราจะจัดการกับความเครียดที่มาพร้อมกับการบ้างานได้อย่างไร? นี่อาจจะเป็นวิธีที่จะรับมือง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพ
1. รู้เวลาทุ่มเท รู้เวลาหยุดพัก
ในทุกธุรกิจย่อมต้องมีช่วงเวลาความยุ่งวุ่นวายและบางทีก็มีช่วงที่อ่อนล้าบ้าง อาจดูว่าเป็นเหตุผลแม้แต่มืออาชีพที่ทำงานหนักและยาวนานเมื่อสถานการณ์บังคับก็ต้องหัดที่จะปล่อยความกดดันให้ออกไปจากตัวเองบ้าง การทำงานที่ยาวนานอย่างต่อเนื่องสามารถสร้างความหายนะให้กับสุขภาพของคุณได้
2. หาสาเหตุของความเครียดให้เจอ
เป็นไปได้ยากที่จะขจัดความเครียดไปได้หากยังไม่ทราบถึงสาเหตุของมัน สังเกตดูสภาพแวดล้อมในการทำงานและหาคำตอบว่าอะไรที่ทำให้เครียด สาเหตุต่างๆ อาจรวมถึงการเดินทางที่ใช้เวลานาน ลูกค้าที่เอาใจยาก ความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน การเมืองในบริษัท ซึ่งอาจทำให้รู้สึกหวาดกลัวกับหน้าที่การงาน หรือปัญหาทางการเงิน ลิสต์ปัญหาต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดความเครียด และนี่คือขั้นตอนแรกในการที่จะแก้ไขปัญหาต่อไป
3. หลีกเลี่ยงการทำงานแบบไฟลนก้น
ในสภาพการทำงานที่ตึงเครียดเราต้องมีการวางแผนการทำงานที่เป็นแบบแผนมากขึ้น เพื่อให้ตัวเรารู้ว่างานไหนสำคัญ เช่น การเตรียมตัวปิดการขาย หรือการทำพรีเซนต์ อย่าให้งานทุกอย่างกองรวมกันก่อนวันที่ประชุม เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราลดความตึงเครียดลง
4. ผ่อนคลายจิตใจ
การผ่อนคลายจิตใจเป็นสิ่งสำคัญของการทำงาน หาเทคนิคในการผ่อนคลายจิตใจ อาจเป็นการหายใจเข้าปอดลึกๆ เดินเล่นในสวน เล่นโยคะ และการทำสมาธิ
5. บำบัดด้วยเสียงเพลง
การฟังเพลงถือว่าเป็นเทคนิคในการผ่อนคลายที่ดีและนิยมทำกันอย่างหนึ่ง การได้ทำงานไปพร้อมๆ กับการได้ฟังเพลงที่ชื่นชอบด้วยอารมณ์สุนทรีย์ จะทำให้ลดความตึงเครียดในที่ทำงานลงได้
6. ปรนเปรอตัวเองบ้าง
หลังจากที่ทำงานมาตลอดทั้งวัน ควรให้ร่างกายและสมองได้ผ่อนคลายด้วยการนวดหรือเข้าสปา เพื่อทำให้ร่างกายเราพักผ่อนจากความเมื่อยล้า ซึ่งการนวดศีรษะถือว่าเป็นการผ่อนคลายที่ดีมากเช่นกัน
7. ฟังคำเตือนของครอบครัวและเพื่อนฝูงไว้บ้าง
การได้ฟังความเห็นหรือเชื่อคำเตือนของคนรอบข้างว่าเรามีความเครียดมาก ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรเชื่อและทำตาม เพราะเป็นคนที่สามารถแนะนำสิ่งดีๆ ให้เราได้ นอกจากนั้นคนรอบตัวเหล่านี้ยังเป็นผู้ฟังที่ดี และพร้อมให้กำลังใจได้ตลอดเวลา
8. ใช้ศาสนาหรือปรัชญาเป็นยาช่วยบำบัดจิตใจ
หลายคนหันไปพึ่งศาสนาและปรัชญาเพื่อหาความสงบทางใจ โดยใช้ความเชื่อถือและศรัทธาเป็นสิ่งช่วยฝึกฝนจิตใจให้ต่อสู้กับความเครียดที่เข้ามาได้
9. จัดการความเครียดให้เป็นกิจวัตร
กุญแจสำคัญในการจัดการกับความเครียดที่สะสมอยู่นั้นคือการรวมวิธีทุกอย่างที่ว่ามาข้างต้นและทำให้ได้ในทุกๆ วัน เพราะการจัดการความเครียดต้องมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ฝึกฝน และต้องปฏิบัติจนเคยชิน
คอมพิวเตอร์ควอนตัมคืออะไร ส่งผลกับโลกของเรายังไง?
247 week ago
มาทำความเข้าใจกับยุค Crowd-based Capitalism
248 week ago
Most read this week
Trending
Comments
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion