แม้ว่าจะมีแอปพลิชันต่าง ๆ ที่ช่วยร้านค้าออนไลน์อยู่บ้าง แต่ก็มีแอปพลิเคชันที่น่าสนใจอีกแอปหนึ่งคือ Line@ เป็นแอปที่ช่วยให้ธุรกิจ SMEs ค้าขายออนไลน์ได้ง่ายขึ้นเพราะมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะ และสิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ว่าแอปพลิเคชัน Line จะมียอดดาวน์โหลดเป็นอันดับที่ 3 แต่ก็มีผู้ใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งเชื่อมโยงกับการที่ Line@ สามารถเข้าถึงลูกค้าของธุรกิจ SMEs ได้มากขึ้น เพราะ Line@ ทำขึ้นเพื่อผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่น Line โดยเฉพาะนั่นเอง

Line@ คืออะไร

Line@ เป็นแอปพลิเคชันที่ให้ร้านค้าและธุรกิจ SMEs ใช้เพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหรือกลุ่มคน โดยสามารถเก็บข้อมูลสถิติของคนที่เป็นเพื่อนใน Line@ แล้วนำมาประมวลผลว่าลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไร เพื่อที่จะสามารถนำไปพัฒนาคอนเทนต์หรือสร้างความสนใจต่อยอดให้ธุรกิจได้และเพิ่มลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น ซึ่ง Line@ สามารถใช้ได้ทั้งแบบสมาร์ทโฟนและบน PC

คุณสมบัติของ Line@

• เลือกส่งข้อความและรูปภาพได้ในแชทไลน์แบบ 1 ต่อ 1 (ตัวต่อตัว) เหมือนเวลาคุยกับเพื่อนในไลน์ และเสมือนได้ขายของอยู่หน้าร้าน

• ส่งข้อความให้ลูกค้าพร้อมกันหรือที่เรียกว่า Broadcast โดยการสร้างข้อความที่เราต้องการส่งแล้วกระจายให้ลูกค้าที่เป็นเพื่อนกับเราได้พร้อมกันทุกคน

• เวลาไม่ว่างตอบแชทหรือปิดร้านอยู่ ก็สามารถตั้ง Auto-reply ได้

• Line@ มี Timeline ที่สามารถโพสต์ขายของ แนะนำสินค้า หรือโปรโมชั่นของร้านได้ และสามารถกระจายข้อมูล เมื่อมีเพื่อนใน Line@ กดไลค์หรือแสดงความคิดเห็นบนโพสต์ใน Timeline ก็จะไปแสดงที่หน้า Timeline ของลูกค้าด้วย

• แพ็กเกจสำหรับ Line@ มีหลายแบบเลือกได้ตามความต้องการของธุรกิจคุณ โดยในแต่ละแพ็กเกจก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันไป

• ลูกค้า Add friend ร้านค้าใน Line@ ได้โดยไม่ต้องโหลด app อะไรเพิ่ม

มี LINE@ ดีกว่าการใช้ LINE แบบธรรมดาอย่างไร

หนึ่งร้านค้าบน Line@ สามารถเพิ่มแอดมินได้มากถึง 100 คน ซึ่งถ้าหากธุรกิจของคุณมีลูกค้าจำนวนมากก็จะทำให้มีแอดมินหลายคนตอบลูกค้าได้ไม่ตกหล่น  Line@ สามารถเพิ่มเพื่อนได้มากถึง 300,000 คน ในขณะที่ Line ธรรมดาจำกัดเพื่อนไว้ที่ 5,000 คนเท่านั้น และเมื่อ LINE@ มีลูกค้าที่ Add Friend เข้ามาจะกลายเป็น Follower ของร้านทันที ที่สำคัญที่สุดคือนอกจากจะเป็นแอปพลิเคชันเฉพาะเจาะจงเพื่อตอบโจทย์ของธุรกิจ SMEs แล้ว ยังช่วยให้เกิดความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย

Line@ ดีต่อธุกิจ SMEs อย่างไร

การมี Line@ จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อน มีความใกล้ชิดกับลูกค้า เหมือนขายของกันอยู่ที่หน้าร้าน สามารถถามรายละเอียดสินค้าได้ โดยสั่งซื้อในแชทแบบตัวต่อตัวได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องออเดอร์ตกหล่น ช่วยให้สามารถปิดการขายได้สะดวกและเร็วกว่า พร้อมกับส่งข่าวสารความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เราต้องการ รวมไปถึงโปรโมชั่น สินค้าหรือบริการใหม่ ๆ ของร้านได้ โดยส่งข้อมูลได้ครบทุกคน ทำให้ส่งตรงกลุ่มเป้าหมาย แถมเป็นการ Remarketing ได้ด้วย การส่งข้อความใน Line@ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้แน่นอนที่สุดและง่ายที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถตั้งระบบตอบกลับอัตโนมัติได้ โดยกำหนดคีย์เวิร์ดของคำถามเอาไว้ ทำให้ไม่เสียลูกค้า

หากคุณมีเว็บไซต์ ก็สามารถส่ง Rich Message เป็นการส่งภาพพร้อมลิงค์ แบบเดียวกับที่ใช้ใน LINE Official Account เพราะลิงค์จะส่งเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณ ช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมี Greeting Message เมื่อลูกค้า Add Friend มาจะเห็นข้อความต้อนรับทันที และแบบสอบถามสำหรับลูกค้าเพื่อนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์และเพื่อพัฒนาในเรื่องต่าง ๆ ให้กับธุรกิจคุณต่อไป โดยเราสามารถดาวน์โหลด Line@ ได้ฟรีทั้งที่ App Store และ Play Store

สรุป ทำไมธุกิจ SMEs ต้องมี Line@

Line@ เป็นที่นิยมมากสำหรับร้านค้า ธุรกิจ SMEs ใช้ติดต่อกับลูกค้า การเปิดร้านค้าออนไลน์ใน Line@ สามารถทำได้ทันที ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ต้องคำนึงถึงทำเลหรือสถานที่ในการตั้งร้านค้า ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่หรือตกแต่งร้านค้า แถมไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเปิด-ปิด จะเปิดร้านตอนไหนที่สะดวกก็ได้ เพราะแชทคุยกับลูกค้าได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเงินจ้างคนมาดูแลร้านค้า สามารถดูแลร้านค้าได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องห่วงเรื่องการสินค้าหาย เรียกได้ว่ามีฟังก์ชันคล้าย  Line official account แต่มีราคาถูกกว่า ซึ่งเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดว่า Line@ ช่วยสนับสนุนธุรกิจ SMEs เป็นอย่างมาก

ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ เราจะได้ลูกค้าที่เล่นแอปพลิเคชัน Line เท่านั้น แต่ไม่ต้อห่วงเพราะ คนไทยเล่นไลน์เยอะมากที่สุดอยู่แล้ว เราสามารถพาลูกค้าเข้ามาเป็นเพื่อนใน Line@ ได้ง่ายด้วย เพียงแค่สร้างแคมเปญที่น่าสนใจ โปรโมชั่นหรือกิจกรรมอื่น ๆ ปัจจุบันนี้มีหลายร้านค้าที่มีธุรกิจ SMEs ที่เปิดใช้แอปพลิเคชัน Line@ บ้างแล้ว และการเลือกใช้ Line@ อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่คนทำธุรกิจ SMEs ต้องมี!

หากคุณคิดว่าไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เลยอาจมองหาผู้ช่วยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญซึ่งตอนนี้ก็มีบริษัทที่เป็นเอเจนซีให้บริการอยู่หลายเจ้าทั้งเจ้าที่เป็นที่รู้จักมายาวนานเชื่อถือได้ หรือหน้าใหม่ ๆ ที่ก็น่าลองใช้บริการ ลองสอบถามดูเงื่อนไขการให้บริการ เจ้าไหนรับไหวก็ลองปรึกษาดู หรือจะลองศึกษาและดูแลเองก็ไม่ยากจนเกินไปนัก