เมื่อเราพูดถึงสกุลเงินดิจิทัลคงหนีไม่พ้น Bitcoin แต่แท้จริงแล้วยังคงมีอีกหลายสกุลเงินที่ถูกสร้างขึ้นมาจากองค์กรต่างๆ เพื่อเป็นตัวแทนในการซื้อขายสินค้าในระบบดิจิทัล โดยการแลกเปลี่ยนด้วยเงินดิจิทัลนี้จะไม่มีระบบตัวกลางที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเมื่อมีการจ่ายเงิน ยกตัวอย่าง ถ้าเราโอนเงินเพื่อจ่ายค่าสินค้าและบริการโดยมีธนาคารเป็นตัวกลาง แน่นอนว่าการโอนเงินแต่ละครั้งต้องมีค่าธรรมเนียมที่ต้องเสียให้กับธนาคาร แต่การจ่ายเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัลจะไม่มีตัวกลางในการรับเงินเพราะจะใช้เป็นระบบที่เรียกว่า Blockchain เป็นวิธีการโอนเงินโดยตรงถึงบัญชีผู้รับโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และยังมีระบบป้องกันที่จะทำการตรวจสอบมีมาตรฐานสูงอีกด้วย แต่ในความสะดวกสบายของระบบนี้ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่

ความเสี่ยงของ Cyptocurrency สำหรับธุรกิจยุค Digital

1. มูลค่าของสกุลเงินแต่ละตัวในปัจจุบันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ถือครองของสกุลเงินมากกว่าโดยไม่มีปัจจัยอื่นมาผสม

2. ความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งที่ต้องระวังคือมูลค่าของค่าเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างผันผวน ดังนั้น เมื่อเกิดการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นผู้ขายอาจจะได้ทั้งกำไรและขาดทุนในเวลาไล่เลี่ยกัน

3. การเกิดสกุลเงินดิจิทัลที่มากมายนี้ยังไม่มีการยอมรับโดยตรงจากหน่วยงานรัฐบาลหรือสถาบันการเงินและบางประเทศยังไม่อนุญาตให้ใช้สกุลเงินดิจิทัลอีกด้วย

4. การโจรกรรมทางดิจิทัล เพราะเมื่อเกิดการแฮกข้อมูลหรือโดนขโมยแล้วจะไม่สามารถเอาคืนมาได้ เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาที่ไปของเงินได้เลย ไม่เหมือนกับธนาคารที่เมื่อเกิดการโจรกรรมขึ้นยังคงสามารถหาที่มาที่ไปของเงินได้

เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศไทยมีการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลอย่างรวดเร็วเช่นกัน และได้มีการพยายามสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นของเราเองเพราะต้องการ

1. ระดมเงินทุนอย่างรวดเร็วเพื่อนำไปพัฒนาและขยายกิจการ

2. สร้างมูลค่าให้กับบริษัท

3. ไม่ต้องแบกรับดอกเบี้ยเงินกู้และไม่ต้องรอการอนุมัติการกู้เงินเพื่อขยายกิจการ

4. ไม่ต้องผ่านตัวกลางในการโอนเงิน

การเลือกใช้สกุลเงินเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนควรดูค่านิยมและมูลค่าความผันผวนของราคาเพื่อลดความเสี่ยงการขาดทุน