เมื่อคุณตื่นขึ้นมาเพราะเสียงแจ้งเตือนอีเมล เช็กตารางงานของแต่ละวันที่วางไว้ไปพร้อมๆ กับแต่งตัว แทบไม่ค่อยมีเวลากินอาหารเช้า ดื่มชาหรือกาแฟตลอดวันเพื่อไล่ความเซื่องซึมให้ออกไปจากการทำงาน กินอาหารกลางวันพร้อมการประชุมเป็นประจำ เหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย เมื่อยล้าจากการทำงาน ชีวิตก็จะวนเวียนตามตารางอย่างนี้ มีความรู้สึกว่าใช่หรือเปล่า

สิ่งที่คุณต้องการตอนนี้คือวิธีการกินอาหารเพื่อเพิ่มพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

'Productivity Diet' คืออะไร?

ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณนั่นขึ้นอยู่กับว่าคุณกินอะไรไปบ้าง ในการกินอาหารที่ดีจะทำให้คุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อไปบำรุงทั้งสมองและร่างกาย ถ้าคุณเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีด้วยแล้ว ยิ่งต้องฉลาดที่จะเลือกกินอาหารมีประโยชน์มากที่สุด

และนี่คือทิปส์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นแนวทางในการเริ่มต้นเปลี่ยนวิธีการกินให้ได้ประโยชน์

1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ

มีสุภาษิตโบราณว่า  “มื้อเช้ากินอย่างราชา มื้อกลางวันกินดั่งเจ้าชาย ส่วนมื้อเย็นกินแบบยาจก”

นักโภชนาการส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าอาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน เพราะจะช่วยกระตุ้นระบบร่างกายและสมองให้มีพลังงานหลังจากที่อดอาหารมาในชั่วข้ามคืน ดร. Smita Chauhan นักโภชนาการบำบัดและผู้ก่อตั้ง Cell U Loss ได้กล่าวว่า "ต่อให้คุณจะยุ่งมากแค่ไหนคุณก็ต้องกินอาหารเช้าเพราะเป็นสิ่งจำเป็น" เธอยังกล่าวอีกว่า "มีตัวเลือกอื่นอีกมากมายสำหรับที่จะเป็นอาหารเช้า เช่น ผลไม้ น้ำผลไม้ คอนเฟล็คสักถ้วยนึงหรือข้าวโอ๊ตก็ได้” Carol Singh ผู้ร่วมก่อตั้งหุ้น Antidote Cold-pressed Organic Juices ยังแชร์ความคิดว่า "มันเป็นเรื่องสำคัญในการที่จะเริ่มต้นวันใหม่ให้ดี อาจแค่กินอาหารเช้าจำพวกสมูทตี้ที่ประกอบด้วยโยเกิร์ต ผลไม้ และถั่วต่างๆ"

2. ทำอาหารกลางวันมาจากบ้าน

อาหารที่ทำมาเองจากบ้านจะมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพมากกว่าที่กินจากร้านอาหารหรือศูนย์อาหาร ดร. Chauhan กล่าวว่า “น่าที่จะทำอาหารมากินเองให้ได้บ่อยที่สุด เพราะถ้ากินอาหารที่จากที่อื่น ก็ต้องเลือกให้รอบคอบโดยเลือกกินแต่อาหารที่มีแคลอรีต่ำ”

3. ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ

ขนมคือส่วนหนึ่งที่สร้างพลังงานระหว่างวัน และเพื่อไม่ให้เราหมดพลัง “ควรหาขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์ไว้ใกล้มือ อาจจะเป็นถั่วสักถุงวางไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของคุณ” นี่คือคำแนะนำของ Carol ส่วน ดร. Chauhan แนะนำว่า คักรา (แป้งแผ่นบาง กรอบ คล้ายบิสกิต) ถั่วแบบกะเทาะซีก อบกรอบ และบิสกิตที่มีไฟเบอร์สูงเป็นอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ ดร. Vandana Sethi แนะนำว่า การเคี้ยวพวกผลไม้ ถั่วอบ และเมล็ดธัญพืชแห้ง เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดทานตะวัน แทนบิสกิต เหล่านี้จะทำให้คุณตื่นตัวมากขึ้นตลอดทั้งวัน

4. กินอาหารสดใหม่และตามฤดูกาล

อาหารที่แปรรูปทำให้คุณอ้วนและเอื่อยเฉื่อย ในแต่ละมื้อควรมีผลไม้สดและผัก ลีนโปรตีนหรือโปรตีนที่ปราศจากไขมัน และไขมันดี Carol ได้วิจัยการกินอาหารที่สดใหม่ เธอกล่าวว่า เราควรกินอาหารที่ปรุงสดใหม่ มีตามฤดูกาลและหาได้ในท้องถิ่น ในอาหารสำเร็จรูปคุณจะไม่ได้รับวิตามินและแร่ธาตุตามที่ร่างกายต้องการ ซึ่งจะทำให้ให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดี

5. กิน นอนหลับ และตื่น ให้เป็นเวลา

เมื่อถึงเวลาที่ต้องบำรุงร่างกายและสมองของเรา ปรากฏว่าโภชนาการที่ดีจะเกี่ยวข้องกับทั้งสิ่งที่เรากินและเวลาที่เรากิน ดร. Chauhan แนะนำว่า ไม่ว่าจะการนอน การตื่น และการกินอาหาร ควรที่จะต้องทำให้เหมาะสมและสม่ำเสมอ แนะนำให้ทำกิจกรรมต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่สดชื่น การรับประทานอาหารก็ทิ้งช่วงว่างระหว่างมื้ออาหารนานเกินไป

6. ดื่มน้ำเป็นประจำ

ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน ลดชาและกาแฟให้น้อยลง หรือถ้าเป็นไปได้งดการดื่มแอลกอฮอล์ Carol เชื่อว่าน้ำผลไม้สดเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่มีงานยุ่งมากๆ เธอกล่าวว่า นักธุรกิจต้องใช้พลังเยอะ เพราะต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาต้องทำงานในชั่วโมงที่ยาวนาน ดังนั้นน้ำผลไม้สดๆ ถือเป็นแหล่งพลังงานและอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น ร่างกายมนุษย์ต้องการผักและผลไม้ประมาณ 9 มื้อต่อวัน ในขณะที่โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละคนได้รับเพียง 4 มื้อเท่านั้น ในน้ำผลไม้หนึ่งขวดเราจะได้รับประโยชน์ประมาณ 2-3 กิโลกรัมนั่นก็เพียงแค่ผักและผลไม้ 3 มื้อเท่านั้น

7. จำไว้ว่า “สมดุลคือปัญญา”

Carol ได้แบ่งปันข้อคิดว่า “เมื่อพูดถึงการดำรงชีวิตแล้ว ความสมดุลเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง หลายคนมักจะกินอาหารไม่เป็นเวลาและไม่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพมาตลอดสัปดาห์ แล้วก็จะมาพยายามกินชดใช้และใส่ใจในช่วงสุดสัปดาห์ แต่มันไม่ได้ผลอย่างยิ่ง มันไม่ได้ช่วยอะไรให้กับร่างกายเลย เพราะร่างกายเราเกิดความสับสนและไม่เข้าใจวิถีการกินอาหารแบบนี้ การกินอาหารที่สม่ำเสมอและดีต่อสุขภาพในตลอดทั้งสัปดาห์จะเป็นหนทางดีกว่า”เธอยังเสริมอีกว่า “พวกมืออาชีพที่มีชีวิตยุ่งวุ่นวายต้องมีอาหารบางอย่างที่ช่วยในการล้างพิษ อาจสารสกัดจากแอมล่า หรือว่านหางจระเข้สักหนึ่งช้อนโต๊ะในมื้อเช้า สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยในการเผาผลาญอาหารและเพิ่มช่วยในการล้างสารพิษออกจากร่างกาย”

ผู้ประกอบการคงตื่นได้ขึ้นอย่างสดใสและเตรียมพร้อม เช่นเดียวกับธุรกิจของคุณที่ก้าวหน้าเมื่อคุณหันดูแลมันเช่นเดียวกับร่างกายของคุณ ที่จะทำงานอย่างกระปรี้กระเปร่าโดยเฉพาะเมื่อคุณได้โภชนาการที่เหมาะสม สร้างนิสัยในการกินอาหารที่ดี ร่างกายน่าจะขอบคุณและทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นแน่นอน