Fintech หรือ Financial Technology แปลตามตัวก็คือเทคโนโลยีทางการเงินหรือเกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งทุกวันนี้เราทุกคนน่าจะได้เคยสัมผัสกับเทคโนโลยีที่ว่านี้มาแล้วแทบทั้งนั้น ทั้งจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ถามว่าหากต้องการเบิกเงินด่วนต้องทำอย่างไร ATM คือคำตอบของคนส่วนใหญ่ใช่ไหม แต่ก่อนเราว่า ATM คือการเบิกเงินที่รวดเร็วแล้ว ต่อมาพบว่าการใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตในการชำระและบริการสะดวกรวดเร็วยิ่งกว่า และยิ่งต่อมาอีกครั้งที่การโอนเงิน ชำระสินค้าและบริการต่างๆ สามารถทำได้ที่บ้าน บนเตียงนอน ในห้องน้ำ บนรถไฟฟ้า ระหว่างเดินทางกลับบ้านเข้าตรอกซอกซอยต่างๆ ขณะออกกำลังกายในฟิตเนสหรือสวนสาธารณะ ฯลฯ ด้วยระบบ Internet Banking และ Mobile Banking เรียกได้ว่าเราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ในทุกหนแห่ง และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการธนาคารเท่านั้น เกือบทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ทั้งกู้ยืมเงิน การหาเงินกองทุน การประกันชีวิต การสมัครบัตรต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ก็สามารถทำได้แล้วเช่นกัน

เรากำลังเข้าสู่ สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) จากการเข้ามาของกระแสฟินเทค ต้องยอมรับว่าฟินเทคเป็นประตูเปิดเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสด อีกไม่นานเราอาจไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวเลยสักบาท ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าโดยสาร อาหารการกิน เสื้อผ้า ความบันเทิงต่างๆ ที่พัก ค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ เราสามารถจัดการทุกสิ่งทุกอย่างด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ในวันนี้เทคโนโลยีอย่างฟินเทคได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนในเกือบทุกเรื่องของการเงินไปแล้วจริงๆ หากเราก้าวไปไม่ทันการวิ่งของโลกยุคนี้ โอกาสทองต่างๆ ก็จะแซงหน้าเราไป จนเราเองนี่แหละที่จะเป็นคนที่ตกขบวนรถไฟความเร็วสูงคันนี้

ฟินเทคดีอย่างไร

ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้หลายๆ คนเริ่มคุ้นเคยกับการใช้นวัตกรรมทางการเงิน และเริ่มใช้ในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ประโยชน์โดยตรงของฟินเทคคือช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของธุรกรรมทางการเงินอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งเรื่องของความรวดเร็วในขั้นตอนต่างๆ ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น มีบริการใหม่ๆ เข้ามาลดช่องว่าง มีการบริการที่รองรับความต้องการได้ในทันทีสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการมากขึ้น

มองในวงแคบลงสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดทในยุคที่มีเทคโนโลยีทางการเงินมาอำนวยความสะดวก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้อย่างก้าวกระโดด เปิดกว้าง ยอมรับวิถีรูปแบบใหม่ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว ฟินเทคจะกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่เพียงแต่เฉพาะแวดวงการธนาคารเท่านั้น แต่ในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เทคโนโลยีนี้ได้ เห็นได้ง่ายๆ จากธุรกิจ e-commerce ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายออนไลน์ การชำระเงินออนไลน์ การจัดส่ง สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อมาดูกันตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำแล้วจะเห็นว่าไม่ได้มีเพียงแค่ธุรกิจใดธุรกิจเดียวแต่กลับหมายถึงหลายๆ ธุรกิจมาร่วมมือกัน แต่สำหรับลูกค้าเพียงแค่กดปุ่มครั้งเดียวเท่านั้น สามารถลดขั้นตอน ลดเวลา ได้รับบริการที่พึงพอใจในทันที

ในวันนี้หากธุรกิจใดที่ไม่มีเทคโนโลยีทางการเงินเข้ามาช่วย ก็เสมือนกับการทำสงครามที่ไม่มีอาวุธที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพกว่าคู่แข่ง ไม่มีพันธมิตรที่จะเข้ามาเสริมกำลังทัพ ไม่มีช่องทางการหนีเอาตัวรอด นั่นก็เตรียมยกธงขาวได้เลย