352 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที
เมื่อไม่นานมานี้มีผลสำรวจของนีลเส็นได้ออกมาระบุว่าแคมเปญโฆษณาออนไลน์บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2560 สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมเป้าหมายได้เทียบเท่าหรือมากกว่าบนเดสก์ท็อป ซึ่งตัวเลขที่ออกมานั้นเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ มาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าในปัจจุบันนี้โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องนั้นถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดำรงชีวิตของเราไปแล้ว เพราะช่วยอำนวยความสะดวกได้หลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการทำงานต่างๆ ในแต่ละวัน เก็บบันทึกรายชื่อคนที่เราติดต่อ มีฟังก์ชันที่เป็นเสมือนเลขาส่วนตัว ใช้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ใช้ในการแชทคุยกับทุกคนในโลกนี้ ใช้เพื่อความบันเทิงหลากหลายรูปแบบทั้งเล่นเกม ฟังเพลง ชมภาพยนตร์ สื่อสารบนโซเชียลมีเดีย ใช้เพื่อถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ใช้ชำระสินค้าหรือบริการต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคนี้ผูกติดกับโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนแทบแยกจากกันไม่ได้เรียกว่าบางทียังสำคัญยิ่งกว่าการพกกระเป๋าสตางค์เสียอีก แน่นอนว่าสิ่งที่นำเสนอผ่านสมาร์โฟนย่อมจะส่งตรงถึงมือของผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการที่จะทำแคมเปญการตลาดออนไลน์จึงไม่ควรมองข้ามช่องทางนี้โดยเด็ดขาด ที่ผ่านมาแบรนด์ต่างๆ ได้ให้ความสำคัญโดยทำเว็บไซต์หรือสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือกันเป็นจำนวนมากแล้ว
การมีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่รองรับ mobile version นั้นถือเป็นช่องทางการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ และเป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้กับธุรกิจของเราได้อย่างมาก ซึ่งกลยุทธ์ในการสร้างตัวตนบนออนไลน์ที่ควรให้ความสำคัญคือ
- ค้นเจอได้ง่าย พยายามทำให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับที่ดีบนเสิร์ชเอนจิ้น เพราะคนส่วนใหญ่มักจะค้นหาข้อมูลที่หน้าแรกเท่านั้น
- ตอบสนองตรงความต้องการ การที่เว็บไซต์ของเรามีข้อมูลและสารประโยชน์ที่สามารถตอบโจทย์ของผู้ค้นหาได้ จะสร้างความน่าเชื่อถือและจะทำให้มีการติดตามเกิดขึ้นตามมา
- โหลดได้รวดเร็ว การที่เว็บไซต์ใช้เวลาในการโหลดนานเกินไปจะทำให้คนเลือกที่จะไม่รอ
- ทุกช่องทางสามารถเชื่อมต่อกันได้ มีช่องทางการขายหรือการติดต่อที่จะสามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
การการทำแคมเปญโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนนั้นมีข้อดีที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ
1. จำนวนผู้ใช้มือถือที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากนั่นเท่ากับโอกาสที่จะเข้าถึงผู้บริโภคย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย
2. โอกาสที่สินค้าหรือบริการของเราจะผ่านสายตาก็ง่ายขึ้นและมีโอกาสได้เห็นมากกว่าช่องทางอื่นๆ
3. การทำโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ในปัจจุบันยังสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มได้และยังกำหนดความถี่ในการปรากฏได้อีกด้วย
4. ที่สำคัญที่สุดคืองบประมาณในการทำการตลาดไม่สูงจนเกินไป และหากมีการวางแผนแต่ละแคมเปญให้ดียังสามารถที่จะสู้กับแบรนด์หรือบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่าได้อย่างสบาย
ทำอย่างไรให้คนหยุดดูโฆษณาออนไลน์ของเรา
ภาพหรือวิดีโอต้องสะดุดตา ทำให้หยุดเลื่อนได้ทันที ตามักเป็นประสาทสัมผัสแรกที่จะทำให้คนเกิดอารมณ์ความรู้สึก ดังนั้นควรเลือกภาพหรือวิดีโอที่มีสีสันสะดุดตา เลือกรูปที่สื่ออารมณ์ เกิดความรู้สึก หรือเลือกรูปที่แปลกตา แปลกใหม่ ชวนให้เกิดคำถามไปเลย
มีกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนก็สื่อสารได้ตรงใจ กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและไม่กว้างเกินไป เพื่อที่จะได้มีทิศทางในการทำโฆษณาที่ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องเป็นการลงทุนแบบเสียเปล่า
หัวข้อต้องดึงดูดความสนใจ ต้องเลือกใช้หัวข้อแบบที่ต้องหยุด at first sight ให้ได้ เพราะหัวข้อจะเป็นสิ่งแรกที่คนจะอ่าน เหมือนหนังสือถ้าหน้าปกไม่ดึงดูดใจข้างในก็อย่าหวังว่าจะได้เปิดเข้าไปอ่าน
เนื้อหาสั้น ตรงประเด็น น่าติดตาม สำหรับคนยุคใหม่ต้องเน้นที่การให้ข้อมูลที่เข้าใจง่ายๆ มีประโยชน์ตรงตามความต้องการ และอาจทิ้งความน่าสงสัยให้ติดตามต่อได้จะยิ่งดี
เรื่องราวชวนทอล์ค สร้าง story ดีๆ ให้คนพูดถึงก็จะถูกจริตกับคนไทยเรามาก หรือมีเรื่องแปลกใหม่ก็อาจทำให้มีการแชร์ต่อๆ กันไป แต่ต้องระวังในเรื่องของข้อมูลที่นำมาเล่าควรเป็นเรื่องจริงหรือมีเค้าโครงจริง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดดราม่าและผลเสียแก่สินค้าเราได้
รวมข้อมูลทุกอย่างไว้ด้วยกัน เมื่อดูจากโทรศัพท์มือถือจะสะดวกมากกว่าการมีลิงค์ที่กระจัดกระจายหรือแยกจากกัน ไปหน้านั้นทีหน้านี้ที
คอมพิวเตอร์ควอนตัมคืออะไร ส่งผลกับโลกของเรายังไง?
253 week ago
มาทำความเข้าใจกับยุค Crowd-based Capitalism
253 week ago
Most read this week
Trending
Comments (1)
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion