หลายครั้งที่บรรดาผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจมักจะมีเหมือนกันเวลาที่ให้คำแนะนำแก่ผู้ที่มาขอความเห็น พวกเขามักจะแนะนำว่า 'ดูให้ละเอียดถี่ถ้วนว่าเกิดอะไรขึ้นรอบๆ ตัว' 'ให้แน่ใจเสมอว่าคุณกำลังฟังลูกค้าของคุณอยู่' และ 'ลูกค้าคือพระเจ้า' คำพูดเหล่านี้สนับสนุนให้เห็นว่าผู้ประกอบการที่ชาญฉลาดจะให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของลูกค้า พวกเขาจะใส่ใจกับสิ่งที่ลูกค้าพูด ใช้ประโยชน์ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ และนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนต่อไป

ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ และความคิดเห็นของลูกค้าก็คือเครื่องมือหนึ่งที่เป็นข้อมูลเชิงลึกในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้ นี่คือ 5 วิธีที่จะนำความคิดเห็นของลูกค้ามาช่วยทำให้ธุรกิจเติบโต:

1. หาจุดอ่อนให้เจอ - ลูกค้าที่ไม่รู้สึกโอเคกับสินค้าหรือบริการของเราในไม่ช้าเขาก็จะไปหาทางเลือกอื่น จึงต้องมีความรอบคอบทั้งในการที่จะหากลวิธีในการตอบรับความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม การหาจุดอ่อนที่มีอยู่ให้พบและแก้ไขซึ่งจะเป็นการป้องกันการสูญเสียลูกค้าไปและยังช่วยปรับปรุงคุณภาพของสินค้าหรือบริการได้ การปรับปรุงในด้านคุณภาพจะช่วยนำลูกค้ารายอื่นๆ เข้ามาได้อีก

ตัวอย่างเช่น การสอบถามลูกค้าบางคนเกี่ยวกับประสบการณ์ในร้านค้าปลีก ผู้ประกอบการอาจพบว่ามีผลกระทบเชิงลบจากการที่มีสินค้าราคาสูงแถมราคายังปรากฏให้เห็นเด่นชัดเกินไป วิธีการแก้ไขอาจทำให้ป้ายราคาไม่โดดเด่นนัก วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ามีความต้องการอยากซื้อมากขึ้น

2. การสอบถามความเห็นลูกค้าจะช่วยให้พวกเขารู้สึกว่าสำคัญ - การรักษาลูกค้าไว้ได้ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตของธุรกิจ ผลการศึกษาจาก Harvard Business Review แสดงให้เห็นว่าการลงทุนที่จะรักษาลูกค้าเก่าไว้ใช้เงินน้อยกว่าการหาลูกค้ารายใหม่ถึง 5-25 เท่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดธุรกิจ เพียงแค่เราสอบถามลูกค้าว่ามีความสุขกับประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์หรือการบริการนั้นหรือไม่ ก็จะสามารถทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีคุณค่า และมีแนวโน้มที่จะทำให้เขากลับมาใช้บริการอีกครั้ง และอาจแม้กระทั่งช่วยแนะนำหรือบอกต่อแบบปากต่อปาก

3. ชูจุดแข็งและใช้ประโยชน์ - คล้ายกับการเห็นจุดอ่อนและแก้ไขปัญหาเหล่านั้น การขอความคิดเห็นมักจะนำไปสู่ข้อมูลเชิงลึกที่อาจไม่รู้มาก่อนเกี่ยวกับจุดแข็งของคุณ แม้ว่าข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงธุรกิจของคุณ แต่ก็ทำให้สามารถสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและสามารถใช้โปรโมตทางธุรกิจได้

ตัวอย่างก็เช่น หากมั่นใจว่าผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของคุณนั้นสามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ก็สามารถใช้จุดแข็งนี้ในแคมเปญการตลาดครั้งต่อไปได้ เช่น การรับประกันความรวดเร็วในการจัดส่งซึ่งจะสามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างแน่นอน

4. สังเกตระดับความพึงพอใจ - การขอความคิดเห็นจากลูกค้าจำนวนมากผ่านแบบสอบถาม จะได้ข้อมูลเชิงลึกทั้งแบบจุลภาคและมหภาค ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจได้

สตาร์บัคส์ เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ทำการสำรวจสมาชิกของตนเป็นระยะๆ และวิธีนี้สามารถติดตามความต้องการของลูกค้าเพื่อจัดเก็บข้อมูลไว้ซึ่งทำให้เกิดยอดขายสูงสุด โดยการติดตามนั้นจะติดตามจากความชอบของลูกค้าตามฤดูกาล ตามชนิดของเครื่องดื่ม และตามอาหารที่ลูกค้าสั่ง เช่น ติดตามแล้วพบว่าคาราเมล มัคคิอาโตขายดีในช่วงฤดูร้อน ทางร้านจึงนำเครื่องดื่มเย็นที่ผสมคาราเมลมาเป็นตัวดึงดูดลูกค้า

5. การรับรองคุณภาพและรักษาชื่อเสียงในโลกดิจิทัล - ในยุคของโซเชียลมีเดีย บริษัทของคุณน่าจะมี Digital Footprint ไว้ การจัดลำดับความสำคัญของข้อเสนอแนะจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับข้อมูลหรือประเด็นที่ถูกกล่าวถึงได้ผลดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้ที่ไม่พอใจกับองค์กรของคุณอาจเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งที่จะนำมาใช้ในการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาได้อย่างเปิดเผย ซึ่งจะสามารถลดผลกระทบเชิงลบต่อคำวิจารณ์บนโลกออนไลน์ได้

และกับลูกค้าที่พอใจและมีประสบการณ์ที่ดีก็สามารถนำมาใช้เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการยืนยันคุณภาพ ซึ่งสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้คุณได้ ชื่อเสียงที่มั่นคง ความน่าไว้วางใจ จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ดี

บทสรุป

หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เรียนรู้นั้นมาจากความคิดเห็นของลูกค้า ผู้ประกอบการที่รับฟังความคิดเห็นอย่างจริงจังจะพบว่าสิ่งเหล่านั้นสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าและบริการได้ และจะเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการเติบโตทางธุรกิจตอไปได้อีกด้วย