แนวโน้ม Data Marketing จะเข้ามาแทรกแซงตลาด Digital Marketing ในอนาคตได้จริงหรือ?

    การทำ Marketing 4.0 ที่เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่เราควรก้าวเข้าสู่ยุค Marketing 5.0 ซึ่ง เป็นเทรนด์การตลาดแบบใหม่ที่มี “Data” เป็นเครื่องมือหลักอันทรงพลังในการสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจเฉพาะบุคคล และสำหรับการตลาดยุคนี้ “ข้อมูล” ก็เปรียบเสมือนอัญมณีที่รอให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีความรู้ความเข้าใจ นำไปเจียระไนให้เกิดประโยชน์นั่นเอง 

Digital marketing  คือ การสื่อสารกับลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย การโปรโมทสินค้าหรือแบรนด์ผ่านช่องทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน เมื่อข้อมูลถูกส่งต่อไปสำเร็จแล้ว ทำให้เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วทันใจ โดยผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของ Content ที่ใช้โปรโมทธุรกิจ

    แต่ความคิดสร้างสรรค์หรือการสื่อสารที่ทรงพลัง อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป หากขาดการสร้าง Relationship ในระยะยาวกับลูกค้า การสื่อสารอาจจบในครั้งเดียว ไม่ได้เป็น Authentic Relationship หรือความสัมพันธ์เหนียวแน่นแท้จริงที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ เกิดความภักดีต่อแบรนด์และอยากกลับมาหาแบรนด์อีกครั้ง

Data marketing

    Data Marketing ในที่นี้อาจครอบคลุมถึง 2 ความหมายนั่นคือ Database Marketing หรือ การตลาดฐานข้อมูล เป็นการสร้าง (build) รักษา (Maintain) และนำฐานข้อมูลของลูกค้า (Utilize) หรือ Customer Database นำมาใช้เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด และในอีกความหมาย นั่นคือ Data Analysis หรือ การวิเคราะห์ข้อมูล การเริ่มต้นธุรกิจ หรือการนำสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดเป็นสิ่งที่ฟังดูยาก ดังนั้นความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์การตลาด จึงเป็นสิ่งที่ช่วยกำหนดเป้าหมายทางการตลาดและแบบแผนการตลาดได้ หากทำความเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ การวางแผนทางการตลาดจะง่ายขึ้นและจะไม่เสียเงินโดยใช่เหตุให้กับการตลาดในโลกยุคใหม่ที่เติบโตจนล้นโลกแล้วก็ว่าได้

    การทำ Data มีความสำคัญอย่างมากในการทำการตลาดตอนนี้ ใครที่ไม่เริ่มทำData จะอยู่ในภาวะลำบากมากในอนาคต แต่หลายครั้ง นักการตลาดมักคิดว่า Data ของตน มีคุณภาพแล้วและจะนำมาหาประโยชน์กับสิ่งไหนก็ได้ แต่ความเป็นจริงอาจไม่มีประโยชน์เลยหากไม่สามารถนำไปใช้ต่อได้ในอนาคต

    นักการตลาด ต้องรู้ว่า Data แบบไหนที่จะมีประโยชน์ต่อธุรกิจของเรา Data ที่มีประโยชน์คือ Data ที่มีความสดใหม่ มีความ Realtime ซึ่งข้อมูลเก่าก็ไม่ได้ไร้ค่า เพราะสามารถนำมาศึกษาอดีต เพื่อวางแผนในปัจจุบันและอนาคตได้ แต่เพียง Data ที่มีความสดใหม่นั้น สามารถทำให้เรารับรู้สถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ธุรกิจที่ต้องการข้อมูล Real time เช่น หุ้น หรือ e-commerce เป็นต้น นอกจากต้องสดใหม่แล้ว Data ยังต้องมีความถี่ ที่จะทำให้นักการตลาดสามารถเห็นเหตุการณ์ได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ สามารถนำมาสร้างโมเดลทางการตลาดได้ 

    อีกทั้ง Data ต้องมีความเชื่อมโยงกันกับเรื่องที่ต้องการจะทำ หรือต้องการนำเสนอ เพราะถ้าหากไม่มีความเชื่อมโยงกัน ข้อมูลเหล่านั้นอาจไม่สำคัญพอที่จะนำมาใช้ และแน่นอนที่ขาดไม่ได้เลย คือ Data นั้นๆ ต้องมีความน่าเชื่อถือ เพราะถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นกระบวนการที่ต้องมีทุกครั้ง เมื่อได้ Data มา คือต้องตรวจสอบว่าใช้ได้หรือไม่ ซึ่งต้องใช้แรงงาน และเวลาอย่างมาก

    สำหรับผู้ประกอบการ ถ้านำ Data ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้กับการทำการตลาดได้ถูกที่ถูกทาง ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ เกิดความเข้าใจลูกค้า ที่ไม่ใช่แค่จากการถามความเห็นเท่านั้น แต่เป็น ข้อเท็จจริง ที่จับต้องได้ โดยมีพฤติกรรมลูกค้าเป็นเครื่องยืนยัน

    ในอนาคตมีความเป็นไปได้อย่างมากที่ Data Marketing จะเข้ามาแทรกแซงตลาด Digital Marketing เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ต้องการเข้าถึงข้อมูลของสินค้าและบริการนั้นๆ โดยการเช็คจาก รีวิว หรือบทความต่างๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ดังนั้น ธุรกิจที่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคได้รับรู้ จะสามารถสร้างโอกาสให้กับธุรกิจมากกว่าเดิม และยังสามารถสร้างความรู้สึกดีให้กับผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ พร้อมกระตุ้นให้เกิดการบริโภคซ้ำมากยิ่งขึ้นไปได้อีกด้วย