จากเมื่อก่อนที่มีการโปรโมทสินค้าหรือบริการให้เป็นที่รู้จักโดยให้เข้าถึงผู้บริโภคด้วยการทำโฆษณาทางทีวี วิทยุ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันในธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องการโปรโมทแบรนด์สินค้าหรือบริการจะต้องปรับตัวในการทำโฆษณาในแบบของยุคดิจิทัล อย่างเช่น การทำการโฆษณาแบบออนไลน์มากขึ้น เพราะในปัจจุบันประเทศไทยมีคนไทยเล่น Social Media เป็นจำนวน 51 ล้านคนและเล่นบน Platform ของ Facebook มากเป็นอันดับที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นการทำโฆษณาบน Facebook ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีและสามารถประสบความสำเร็จจากการทำโฆษณาได้ อย่างไรก็ดียังมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นสำหรับคนทำธุรกิจบน Facebook บางประการที่เราไม่ควรมองข้าม

ทำไมถึงต้องทำโฆษณาบน Facebook

การทำโฆษณาบน Facebook จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ได้มากกว่า เนื่องจากฟังก์ชันของ Facebook ที่สามารถให้คุณทำการโฆษณาได้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ เช่น คุณสามารถเลือกกลุ่มอายุ เพศ อาชีพ หรือเลือกจากความสนใจแบบเฉพาะเจาะจงได้ นอกจากนี้แล้วยังสามารถเลือกสถานที่ ทำให้การโปรโมทธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มคนได้อย่างแม่นยำกว่า เห็นได้ชัดว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าหากเราเลือกทำโฆษณาทาง Facebook อย่างไรก็ตาม จึงทำให้เกิดการแย่งพื้นที่โฆษณาอย่างมากมายตามไปด้วย ซึ่งในบางธุรกิจก็จะสงสัยว่าทำไมลงทุนทำโฆษณาไปมากมายแต่ว่าผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หรือเพราะบางทีอาจมีข้อผิดพลาดบางอย่างเกี่ยวกับการทำโฆษณาบน Facebook ที่เราไม่ได้สังเกตเห็นก็เป็นได้

ข้อผิดพลาดของการทำโฆษณาบน Facebook

• โพสต์อะไรไปเรื่อยเปื่อย จนไม่รู้ว่าจะสื่อถึงอะไร

โพสต์และแชร์อะไรไปเรื่อยเปื่อยซึ่งคอนเทนต์นั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเพจธุรกิจหรือองค์กรเลย ไม่รู้ว่าต้องการจะสื่ออะไร เช่น การโพสต์ถึงคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแสเพียงเพราะเพจต้องการเรียกยอดไลก์และยอดแชร์ให้มาก ๆ แต่คนไม่สามารถจดจำความเป็นตัวตนของเพจได้ ซึ่งถือเป็นคอนเทนต์ขยะ และความเข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่งคือ ยิ่งโพสต์เยอะไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คนเห็นหรือมีปฏิกิริยากับเพจได้ บางทีอาจจะเป็นการรบกวนลูกเพจมากเกินไปจนถึงขั้นทำให้ Unlike เพจไปเลยก็ได้

• ไม่ให้เวลาและให้ความสำคัญ

โพสต์และทำโฆษณาไปเรื่อย ๆ โดยไม่ประเมินสถานการณ์ (optimize) ของแต่ละโพสต์ ซึ่งเป็นการวางแผนการโฆษณาที่สูญเปล่า การทำเพจ Facebook ให้ประสบความสำเร็จจะต้องมีการวางแผนการตลาดให้ดีและคอยดูผลลัพธ์อยู่เสมอ หากไม่เวิร์คก็ต้องรีบเปลี่ยนแนวทางให้สำเร็จตามเป้าหมาย นอกจากนั้นแล้วต้องมีคอนเทนต์โพสต์อย่างสม่ำเสมอ อย่าทำเพจแบบไม่อยู่กับร่องกับรอย เดี๋ยวโพสต์เดี๋ยวหายก็จะทำให้คุณภาพของเพจลดลงได้

• ทำ Content ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากจะต้องคิด Content และ Campaign ดี ๆ แล้ว การวางแผนการตลาดที่ดีก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ควรนำตัวเลขจากผลลัพธ์ต่าง ๆ มาคำนวณเป้าหมาย เช่น ยอดวิว จำนวนไลก์ จำนวนคนติดตาม จำนวนคนที่พูดถึง จำนวนคอมเมนต์ แชร์ จำนวนวิวต่อจำนวน หรือแม้กระทั่งยอดการสั่งซื้อ ช่วงเวลาที่คนคลิกไลก์และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในเพจมาวิเคราะห์และประเมินผลเพื่อให้รู้ว่าแผนกลยุทธ์การตลาดที่ได้ทำไปให้ผลสำเร็จมากแค่ไหน หากจ่ายเงินโฆษณาอย่างไม่มีแบบแผน ไม่กำหนดกลุ่มคนเป้าหมาย หรือเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจก็จะทำให้คุณเสียเงินโฆษณาไปอย่างเปล่าประโยชน์

• เป็นผู้พูดอยู่ฝ่ายเดียว

การสร้างคอนเทนต์เพื่อโฆษณาอีกอย่างหนึ่งคือ เข้าใจผู้บริโภคด้วยว่าต้องการอะไร อย่าเป็นผู้พูดอยู่ฝ่ายเดียว เช่น หากเราต้องการขายของบนเพจ เราก็พูดถึงแต่ตัวสินค้าและมีแต่ขายของอย่างเดียว อย่าลืมว่า Facebook ไม่ใช่พื้นที่สำหรับโฆษณาเต็มรูปแบบ การขายของอย่างเดียวอาจเป็นการรบกวนลูกเพจจนเกินไป แต่ถ้าสร้างคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกเพจด้วย เช่น การสร้างคอนเทนต์ให้เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์กับธุรกิจในเพจ จะเป็นการสร้างเพจให้มีคุณภาพขึ้นได้และอย่าลืมให้ความสำคัญโดยการคอยตอบคำถามลูกเพจเพื่อจะส่งผลดีต่อเพจได้มากกว่าโพสต์คอนเทนต์อย่างเดียว

• มีลิงค์ให้ออกจาก Facebook มากเกินไป

สำหรับปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้การโฆษณาไม่เป็นผลดีเท่าที่ควรคือ การมีลิงค์ให้ออกจากแพลตฟอร์มของ Facebook เพื่อเป็นการเรียก Traffic ไปสู่เว็บไซต์ที่เราลิงค์ออกไป แต่ระบบของ Facebook อยากไม่อยากให้คนออกจาก Facebook จึงทำให้โพสต์นั้น ๆ ถูกลดค่าโดยที่จำนวนในการมองเห็นลดลงเรื่อย ๆ จนทำให้ไม่มีคนเห็นได้ในที่สุด อีกอย่างหนึ่งที่ Facebook จะจำกัดสิทธิ์ของคุณคือ โพสต์ลิงค์ที่ไม่มีอยู่จริง หรือที่อยู่ของลิงค์ผิดพลาด หรือลิงค์ที่นำไปสู่เนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับโฆษณาของคุณ เพราะทาง Facebook สามารถตรวจสอบได้ว่าลิงค์นั้นนำไปสู่ที่ไหน ซึ่งถ้าหากไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการโฆษณา

• เรื่องของภาพในการทำโฆษณาก็สำคัญ

เราอาจพบปัญหาของการทำโฆษณาด้วยเรื่องของรูปภาพด้วยเหมือนกัน เช่น เลือกรูปภาพที่มีความละเอียดต่ำ หรือรูปภาพโฆษณาที่มีภาพ Before และ After ที่ดูเกินจริงอย่างมากก็อาจทำให้รูปภาพไม่ผ่านได้ อีกจุดหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือคำที่ใช้ในโฆษณาที่เยอะกินไปและใช้ข้อความที่ดูเกินจริงก็ทำให้ไม่ผ่านการ Approve จาก Facebook ข้อแนะนำคือจะต้องมีข้อความในรูปภาพไม่เกิน 20% ของพื้นที่ทั้งหมดในรูปภาพ

    การลงโฆษณาใน Facebook ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งซึ่งควรได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากที่สุด เท่าที่จะเป็นได้ ระวังข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้น และจะช่วยให้คุณลงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามควรศึกษากฎและปฏิบัติตามขั้นตอนของการโฆษณา Facebook อย่างละเอียดเพราะป้องกันความผิดพลาดควบคู่ไปกับการทำโฆษณาให้มีประสิทธิภาพด้วย