สังคมต้องการความเอื้ออารีต่อกัน

สังคมต้องการความเอื้ออารีต่อกัน

การเรียนรู้และการพัฒนา

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

251 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

สังคมต้องการความเอื้ออารีต่อกัน

 

เมื่อโลกปัจจุบัน เกิดการสื่อสารกันได้อย่างกระชับ ฉับไว ความเอื้ออารีจึงสำคัญ เพราะอาจเป็นไม่กี่อย่างที่จะสามารถบรรเทาความเจ็บปวดลงบ้าง ในโลกที่สร้างความเจ็บปวดขึ้นได้อย่างง่ายดาย ซึ่งองค์ประกอบของความเอื้ออารี มีดังต่อไปนี้ คือ

    ความอ่อนโยน - การยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นซึ่งเป็นความสามารถในการยอมรับ รัก และ เคารพผู้อื่น

    ความเห็นอกเห็นใจ - ด้วยความรับผิดชอบ สะท้อนความเข้าใจและการนึกถึงความรู้สึกของผู้อื่น

    ความเชื่อมั่นในศีลธรรม - การปฏิบัติที่สื่อถึงความเอื้อเฟื้อ การยกย่องพฤติกรรมที่ดี เพื่อส่งต่อสู่คนอื่นๆ

แก่นของความเอื้ออารี - หลักการในทุกรูปแบบที่สามารถสร้างปฏิกิริยาเชิงบวกในการเห็นอกเห็นใจ กิริยาท่าทางที่ส่งแรงบันดาลใจ และความฉลาดทางความรู้สึก

สิ่งเหล่านี้ ถ้าเทียบกับในอดีต อาจหมายถึงคำสอนของศาสนา ซึ่งมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับสังคม ทุกวันนี้ ภายใต้สังคมที่ยืดหยุนมากขึ้น ข้อผูกมัดที่บังคับให้คนปฏิบัติตามด้วยความเคร่งครัดได้ผลน้อยลง เพราะแต่ละคนจะมีความเข้าใจโลก และเผชิญปัญหาตามที่แต่ละคนได้พบเจอ

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตและการทำงาน โดยเฉพาะในยุค Gig Economy ท่ามกลางตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของพนักงานชั่วคราว หรืออาชีพอิสระ ส่วนใหญ่มักเรียนรู้ที่จะปฏิสัมพันธ์กับผ้อื่นในเชิงธุรกิจ ในปี 2017 การศึกษาขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร อย่าง Kindlab พบว่า ความเอื้ออารีมีผลกระทบเเชิงบวกต่อสุขภาวะทางอารมณ์ของมนุษย์ ซึ่งการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวอร์ริคในอังกฤษพบว่า พนักงานที่มีความสุข จะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น ร้อยละ 12 สะท้อนให้เห็นว่า ความสุข ไม่ใช่เพียงแค่การมีความสุขภาวะทางอารมณ์ แต่ยังส่งผลต่อการทำงาน และประสิทธิผลที่ดีขึ้น ซึ่งเท่ากับความก้าวหน้าของบริษัท

และถึงแม้ว่าปัญญาประดิษฐ์เริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น แต่ ความถ่อมตัว การรู้จักปรับตัว มีวิสัยทัศน์ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถมาแทนที่มนุษย์ได้

การช่วยให้พนักงานรู้สึกดีในการทำงาน ไม่ได้อยู่เพียงแค่การพยายามให้พนักงานมีสมดุลที่เห
มาะสม ระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว หากผู้ประกอบการตระหนักได้ว่า ประสบการณ์ที่สร้างให้กับพนักงานในสถานประกอบการของตน มีผลโดยตรงต่อระดับความรู้สึกของพนักงาน ก็ควรให้ความสำคัญในประเด็นของ การมีความเอื้ออารี ต่อเจ้าหน้าที่ และพนักงานทุกคน

    ความเอื้ออารีต่อพนักงาน อาจหมายถึงการสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน การสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานยังช่วยสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรไปพร้อมกันด้วย และเป็นสิ่งที่จะดึงดูดให้คนที่มีความสามารถอยากมาร่วมงานกับองค์กรได้เป็นอย่างดี

    ซึ่ง การมีบรรยากาศที่ดีในการทำงาน จะต้องมีองค์ประกอบคือ ความคิด และความร่วมมือ ของพนักงานในองค์กร การใช้แบบสำรวจความรู้สึกของพนักงานจะช่วยให้ได้รับข้อเสนอแนะ และรับรู้ความรู้สึกของพนักงาน และทำให้สามารถแก้ไขปัญหา ไปในทางที่ถูกต้องทำให้เกิดบรรยาการศที่ดีในการทำงาน เพราะการฟังเสียงของพนักงาน จะนำไปสู่การทำให้พนักงานแต่ละคนปรับปรุงตัว จนไปถึงการปรับปรุงโดยรวม เมื่อมีบรรยากาศที่ดี พนักงานจะสามารถทำงานอย่างเต็มความสามารถ และส่งผลดีต่อผลประกอบการอีกด้วย

    หากกล่าวถึงการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมในการทำงานได้เป็นอย่างดีในยุคนี้ คงต้องยกให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ที่เนรมิตป่าจำลองขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของตัวเองเพื่อมอบความสดชื่นและอากาศบริสุทธิ์ให้กับพนักงานของตัวเองโดยไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล โดยการสร้างโดมแก้วและคัดเลือกเอาพันธุ์พืชกว่า 40,000 ต้น ที่นำมาจาก 50 ประเทศทั่วโลก มาปลูกรวมกัน นอกจากนั้นยังมีโซนพักผ่อน ให้พนักงานนำโน้ตบุ๊คมานั่งทำงานท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย อีกทั้งในโดมแก้วนี้ยังเต็มไปด้วยสิ่งสร้างสุขอีกมากมาย ที่ Amazon ต้องการมอบคุณภาพชีวิตตลอดจนสุขภาพที่ดี กลับคืนสู่พนักงาน

    การรวบรวมข้อมูลจากบริษัทต่างๆทั่วโลก พบว่า หลายองค์กรต่างเน้นไปที่การสร้างแรงบันดาลใจในฐานะพี่เลี้ยง คอยสอนงานพนักงานมากกว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ ไม่เพียงเท่านั้น ความสุขยังถูกพิจารณาในฐานะข้อบ่งชี้ทางรัฐบาลหรือการวัดความสำเร็จของประเทศนั้นๆซึ่งหนึ่งในตัวแปรสำคัญต่อการมีความสุขนั่นคือการมีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อกันของคนในสังคม

Comments