รุกธุรกิจ E-Commerce ในยุค Digital

รุกธุรกิจ E-Commerce ในยุค Digital

กลยุทธ์

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

362 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

อัตราการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce ในประเทศไทยมีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์รายเล็กรายใหญ่ต่างเข้ามาลงแข่งขันในสนามรบที่ไร้พรมแดนแห่งนี้มากขึ้นและมากขึ้น ใครๆ ก็สามารถทำธุรกิจของตัวเองได้ด้วยว่าวันนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา โอกาสอยู่บนฝ่ามือของทุกๆ คน

 

แนวโน้มการทำธุรกิจ E-Commerce ในยุคนี้มีการแข่งขันกันอย่างมากนี้ ทุกคนสามารถซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์และชำระเงินได้จบบนสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ผู้ประกอบการสามารถจัดการโปรโมทสินค้า วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า สื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงความต้องการ แนะนำบริการ และส่งข่าวสารต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ และการขนส่งที่หลากหลายและสะดวกสบายมารองรับ หรือแม้แต่ในเรื่องของเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจผู้ประกอบการยังสามารถมองหาได้เองจากช่องทางออนไลน์ เรียกว่าวันนี้ถ้าใครปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ได้ไวก็อยู่ได้ แต่หากใครตามไม่ทันอาจจะเรียกว่าอยู่ในระยะน่าเป็นห่วงกันเลยทีเดียว

 

โอกาสในการุกธุรกิจ E-Commerce ในยุคดิจิทัลอย่างวันนี้ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง

 

1. ต้องรู้ใจลูกค้า ต้องวิเคราะห์ให้รู้ว่าลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ของเรานั้นเป็นใครและต้องการสิ่งใด โดยทุกวันนี้มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่หาได้บนโลกดิจิทัลที่จะช่วยเราหาคำตอบเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ข้อมูลของลูกค้าจำนวนมหาศาลมีอยู่ในอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าเราจะมีธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่เราก็สามารถจัดการได้เองโดยไม่ใช่เรื่องยากเกินกำลังอีกแล้ว หรือหากใครคิดว่ายากเกินไปทุกวันนี้ก็มีคอร์สอบรมสัมมนาต่างๆ ที่ช่วยสอนหรือบางที่ยังรับดูแลจัดการให้ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในระดับใดก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักไว้เสมอว่าอย่าหลงทางไปให้ความสำคัญกับเรื่องของเทคโนโลยีหรือเครื่องมือวิเคราะห์มากไปกว่าความต้องการของลูกค้าจริงๆ

 

2. แบรนด์ยังเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องของแบรนด์ยังคงต้องให้ความสำคัญอยู่เสมอ เพราะแบรนด์เป็นสิ่งที่แสดงตัวตนของธุรกิจของเรา พยายามสร้างความแตกต่าง โดดเด่น จากคนอื่นๆ ให้ได้ สร้างความมั่นใจต่อลูกค้าให้ได้ว่า ซื้อสินค้าหรือบริการจากเราแล้วมั่นใจได้ว่าได้ของดีมีคุณภาพจริง หรือจะได้รับบริการที่เยี่ยมยอดแน่นอน ทุกวันนี้การสร้างแบรนด์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายโดยตรง เพื่อให้ทุกการลงทุนของเราคุ้มค่าจริงๆ กลุ่มเป้าหมายคือปัจจัยภายนอกแต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในของเราด้วย การสร้างแบรนด์กับพนักงานของเราเองก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะจะช่วยเสริมให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจของเราออกมาดูดี จริงใจ และโปร่งใสจริงๆ

 

3. ถึงมี online แต่ offline ก็สำคัญ การทิ้งโอกาสในการขายทาง offline เป็นเรื่องน่าเสียดาย แม้ว่าเราจะไม่มีหน้าร้านที่แน่นอน แต่การทำการตลาดหรือจัดกิจกรรมอยู่เสมอๆ ก็อาจทำให้เป็นที่รู้จักจดจำและสร้างโอกาสในการขายได้มากขึ้น ลูกค้าที่อาจไม่รู้จักเราทางออนไลน์ก็อาจกลายมาเป็นลูกค้าประจำที่อยากซื้อสินค้าหรือบริการของเราจากการขายแบบออฟไลน์ก็ได้ และในแต่ละครั้งที่มีการทำการตลาดหากตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนไว้ด้วย ก็จะช่วยให้การขายของเราได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

4. ใช้เทคโนโลยีมาเติมเต็มให้กับธุรกิจ การมีเทคโนโลยีหรือ Platform ต่างๆ มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายก็จะทำให้ธุรกิจของเราเกิดความคล่องตัว และสามารถให้บริการในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ 2 เรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ E-Commerce อย่างการชำระเงินและการขนส่ง การใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์มนั้นบางครั้งไม่จำเป็นต้องสร้างแพลตฟอร์มเองทั้งหมดก็ได้ เลือกวิธีการเป็นพันธมิตรกับธุรกิจอื่นเพื่อเติมเต็มให้กับธุรกิจเรา เพราะเป้าหมายจริงๆ คือการอำนวยความสะดวกในการชำระเงินและการจัดส่งสินค้าหรือบริการสู่มือลูกค้าให้ได้นั่นเอง

 

5. สร้างความผูกพัน อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจนั้น ลูกค้าก็ยังมีความสำคัญอยู่เสมอตั้งแต่ต้นจนจบ ธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ยืนยาว เราต้องพยายามทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกผูกพัน มีประสบการณ์และความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ของเรา อีกทั้งการที่ลูกค้ามีความรู้สึกที่ดีจะเป็นการช่วยส่งต่อความรู้สึกที่ดีโดยการแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการบอกต่อๆ กันไป

 

การรุกธุรกิจบนโลกดิจิทัลที่นับวันจะขยายขอบเขตกว้างไกลออกไปทั่วโลก คงต้องพยายามติดตามข้อมูลเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ไว้เสมอ เพราะจำนวนไม่น้อยที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเพื่อช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจในเรื่องการบริการต่างๆ ให้สมบูรณ์ ดิจิทัลในวันนี้คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเอาชนะใจลูกค้าได้

 

Comments