มาทำความรู้จักกับโภชนาการด้านดิจิทัล (Digital Nutrition)

    ปี 2019 นับเป็นปีที่เป็นที่สุดของสื่อโซเชียลมีเดียในหลายๆด้าน แพลตฟอร์มใหญ่อย่าง YouTube และ Instagram ครองใจกลุ่ม มิลเลนเนียนและเจนซีมาเป็นอันดับหนึ่ง ผลการสำรวจในปี 2019 พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ เข้าถึงอินเทอร์เน็ต และนิยมใช้ Social Media ผ่านมือถือ โดยใช้เวลาบนโลกออนไลน์ กว่า 9 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดแนวคิดด้านลบซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและความสุขด้านบวก มีคนมากมายต้องการที่จะปลดล็อกตัวเองจากโลกออนไลน์ เพื่อหาตัวตนในโลกความจริง แต่ก็ไม่สามารถตัดขาดจากหน้าจอสมาร์ทโฟนได้เกิน 1 ชั่วโมง จนสามารถเรียกอาการเหล่านี้ว่า Phoneliness

    การบำบัดตัวเองจากการเสพข้อมูลดิจิทัลมากเกินไปสามารถทำได้ด้วยการทำกิจกรรมอื่นทดแทน รวมถึงการมองหาแอพพลิเคชั่นที่เข้ามาแทนที่สื่อโซเชียล ซึ่งเน้นโภชนาการด้านดิจิทัล (Digital Nutrition) ผลสำรวจจาก Fuelled พบว่าคนกลุ่มมิลเลนเนียลจำนวน 70 เปอร์เซ็นต์ ชอบใช้เวลาอยู่บ้าน ไม่ใช่เพื่อพักผ่อนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังชื่นชอบการใช้ช่วงเวลานี้สร้างประสบการณ์ที่จะกระตุ้นให้มองโลกด้านบวกในรูปแบบของ Home Hub อีกด้วย นอกจากสถิติการจัดจำหน่ายเครื่องมือสมาร์ทโฮมในในบ้านจะได้รับความนิยมอย่างสูงในปี 2019 และจะสูงขึ้นไปอีกจนถึงปี 2021 แอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการดูแลตัวเอง หรือใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้เช่นกัน แอพพลิเคชั่นไดอารี่ส่วนตัวอย่าง แอพ Day One เป็นการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวบนโลกโซเชียล โดยการบันทึกความทรงจำ และความรู้สึกในแต่ละวันผ่านการพิมพ์ ถ่ายรูป อัดเสียง หรือบันทึกวิดีโอ สามารถแชร์พิกัดสถานที่ลงแพลตฟอร์มและใช้แอชแท็กได้ตามใจ โดยที่หน้าตาของแพลตฟอร์มจะคล้ายกับสื่อโซเชียลมีเดีย ต่างแค่ตรงที่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บเป็นข้อมูลส่วนตัว

5 เคล็ดลับสำหรับโภชนาการดิจิทัลที่ดี

1. Be Proactive ระวังว่าคุณใช้เวลากับเทคโนโลยีและโลกดิจิทัลมากแค่ไหน ลองใช้เวลาเขียนไดอารี่อย่างน้อย 3 วันและตรวจสอบให้แน่ชัดว่าคุณใช้เวลาที่ไหนและทำอะไรกับวันของคุณ การวางแผนเรื่องเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนั่นจะทำให้การจัดการชีวิตของเราดีขึ้นกว่าเดิม
2. Be Planful วางแผนอยู่เสมอ ในการจำกัดเวลาที่จะใช้ในเว็บไซต์และแพลตฟอร์มที่คุณรู้ว่ามันจะทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ไม่แนะนำให้งดไปเลย หรือไม่เข้าเว็บนั้นเลย แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องวางแผนออกมาจากการเล่นเมื่อถึงเวลาอันสมควร สิ่งนี้จะช่วยป้องกันการเสียเวลาและความเกลียดชังตนเองที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตามมา นอกจากนั้นการวางแผนเรื่องเวลาถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในการบรรลุความสำเร็จ
3. Nurture Relationships  เรามักจะเห็นคนสองคนนั่งด้วยกัน ในขณะเดียวกัน ทั้งคู่ต่างก็ก้มมองหน้าจอมือถือของตัวเอง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับผู้ปกครองของเด็กเล็กอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาพัฒนาทักษะทางสังคมของพวกเขาได้โดยทำตามผู้คนที่พวกเขาปฏิสัมพันธ์ด้วย เราควรปฏิสัมพันธ์กับคนในชีวิตจริงด้วยการ สบตา มองหน้ากันเวลาพูดคุย มากกว่าการจมอยู่ในโซเชียลมีเดียโดยไม่คำนึงถึงคนรอบข้าง
4. Remember who is in control เทคโนโลยีคือเครื่องมือชนิดหนึ่ง ไม่ใช่หัวหน้าของเรา อย่าให้มันมาทำให้เรารู้สึกลำบาก โดยการต้องตั้งหน้าตั้งตาเช็คฟีดข่าวอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลว่าคุณจะทราบข้อมูลช้ากว่าคนอื่น โดยการต้องนั่งไถหน้าจออยู่ทุกนาที ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ใช้เทคโนโลยีเมื่อต้องการจะใช้จริงๆ

จุดมุ่งหมายของโภชนาการด้านดิจิทัล คือการทำงานเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพและสมดุลกับเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างชีวิตของคุณ เช่นเดียวกับเค้กช็อกโกแลต ดังนั้นจงระวังให้ดีและให้แน่ใจว่า คุณกินมากพอที่จะหล่อเลี้ยงจิตใจคุณ แต่ไม่มากไปจนทำให้คุณป่วย