หากจะพูดว่าเพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทำให้คนไกลกันมากขึ้นก็ดูจะไม่ผิดนัก ความรู้สึกไกลกันเป็นหนึ่งในสาเหตุของความเหงา ทำให้ผู้คนพบปะพูดคุยกันน้อยลง ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างก้มหน้าอยู่ในโลกส่วนตัวกันมากขึ้น สังคมในวันนี้จึงเป็นสังคมแห่งความเหงา และจำนวนคนเหงาก็มีเพิ่มมากขึ้นทุก ๆ วัน

งานวิจัยของนักศึกษาวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาการตลาด ชื่อ “Lonely in the deep เจาะลึกตลาดคนเหงา” เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับจำนวนคนเหงาในประเทศไทยว่ามีสูงกว่า 26.75 ล้านคน หรือคิดเป็น 40.4% ของประชากร ซึ่งกลุ่มผู้มีภาวะความเหงาสูงสุดอยู่ในวัยทำงาน 49.3% และวัยรุ่น 41.8% โดยนิยมใช้วิธีคลายความเหงา 3 วิธี ได้แก่ เล่นโซเชียลมีเดีย เข้าร้านอาหารหรือร้านกาแฟ และการช็อปปิ้ง

ไม่เพียงเฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้น เทรนด์คนเหงาเกิดขึ้นในทั่วโลกเรียกว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่น่าจับตามอง ยิ่งเห็นปัญหายิ่งเห็นโอกาส ลองมาดูโอกาสทางธุรกิจสำหรับ SMEs ที่สนใจจาก Insight ของกลุ่มนี้ว่ามีความต้องการอะไรบ้าง

ธรรมชาติของคนเหงาต้องการคนเข้าใจ ต้องการคนที่จะรับฟังปัญหา สามารถพูดคุยหรือให้คำปรึกษาหารือได้ อย่างน้อยความรู้สึกที่ว่าไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกใบนี้ก็ช่วยพยุงจิตใจให้สู้ต่อได้ เจาะลึกลงไปในแต่ช่วงวัยพบว่า

• กลุ่มคนเหงามากสุดของไทยคือ กลุ่มวัยทำงาน เป็นกลุ่มที่แยกออกมาอยู่เองคนเดียว ต้องเผชิญความเครียดจากหน้าที่การงาน ต้องการหาที่ระบายหรือหาคนรับฟัง ในต่างประเทศกลุ่มที่เหงาที่สุดจะเป็นวัยรุ่นโดยมีเหตุผลคล้าย ๆ กันคือวัยรุ่นตะวันตกมักแยกออกมาอยู่เองตั้งแต่จบไฮสคูล จึงทำให้เกิดความเหงา

• สำหรับวัยรุ่นไทย เป็นกลุ่มคนเหงาที่มีจำนวนมากรองลงมาจากวัยทำงาน วัยรุ่นต้องการเวลาและความเข้าใจจากผู้ปกครองอย่างมาก ในวัยนี้ต้องการการยอมรับจากสังคม เพื่อนคือคนสำคัญและมักเป็นวัยที่เริ่มมีแฟน เมื่อเพื่อนหันไปสนใจแฟนจึงทำให้รู้สึกถูกทิ้ง อ้างว้าง ไม่มีใครสนใจตนเอง และสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเหงามาก ๆ ก็คือ การไม่มีอะไรทำหรือไม่รู้จะทำอะไร

ปั้นธุรกิจให้ถูกใจคนเหงา

ธุรกิจสำหรับคนเหงาในต่างประเทศมีหลายธุรกิจที่น่าสนใจมาก เช่น แอปพลิเคชันให้บริการดูแลผู้สูงวัย แอปพลิเคชันหาเพื่อนออกกำลังกาย บริการเช่าคุณลุงเป็นที่ปรึกษาได้ทางออนไลน์ อพาร์ตเมนต์ที่แชร์พื้นที่ส่วนกลางเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันของผู้เช่า

สัตว์เลี้ยงคือเพื่อนที่ดีของมนุษย์จึงมีผู้ที่สร้างหุ่นยนต์แมวที่มีการทำงานแบบอุปกรณ์สมาร์ทโฮมชิ้นหนึ่งที่ช่วยคลายความเหงาให้กับเจ้าของช่วยถรักษาความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ได้ หรือธุรกิจสำหรับคนเหงาในประเทศไทยที่เห็นได้ง่ายที่สุดก็คือ ธุรกิจคาเฟ่สัตว์เลี้ยงที่ตอนนี้มีตั้งน้องหมา น้องแมว กระต่าย ในต่างประเทศยังมีนกเค้าแมว แพะ และสัตว์เลื้อยคลาน อีกต่างหาก

ปัจจุบันมีธุรกิจที่มีโอกาสดีที่สามารถขยายตลาดเพื่อรองรับกลุ่มคนขี้เหงา 5 ธุรกิจคือ

1. ธุรกิจที่เป็นแบบ Community เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ Board Game Cafe หรือแม้กระทั่ง Girl Group อย่างวง BNK48

2. ธุรกิจที่เป็นแบบ Co-Living Space และ Co-working Space ที่เปิดโอกาสให้คนเหงาได้มาเจอคนอื่น ๆ ด้วย

3. ธุรกิจที่เป็นแบบดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชันเพื่อนออกกำลังกาย หรือ AI อย่างหุ่นยนต์แมว

4. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ทั้งคาเฟ่สัตว์เลี้ยง บริการเช่าสัตว์เลี้ยง โรงแรม สปา สถานที่ออกกำลังกาย เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือเฟอร์นิเจอร์สำหรับสัตว์เลี้ยง

5. ธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งแบบเที่ยวรวมกลุ่มคนเหงา คนโสด หรือเที่ยวแบบจิตอาสา รวมถึงที่พักทั้งแบบเดี่ยวและแบบบ้านเยาวชน

4 กลยุทธ์พิชิตใจคนเหงา

นอกจากนี้ งานวิจัยดังกล่าวยังได้นำเสนอกลยุทธ์ที่จะเป็นเหมือนกุญแจในการเอาชนะใจกลุ่มคนเหงา ได้แก่

• Circumstance สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ทำให้รู้สึกเหงา

• Companion มีความเป็นเพื่อน การสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้ผ่านระบบอัตโนมัติ และพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา

• Forget Me Not เทศกาลต่าง ๆ ไม่ลืมที่จะจัดกิจกรรมหรือโปรโมชั่นเฉพาะสำหรับกลุ่มคนเหงา

• Community เป็นตัวกลางในการสร้างชุมชน