ปรับเว็บไซต์อย่างไรให้ได้รับความนิยม

เคยถามตัวเองไหมว่า ทำไมเราถึงชอบช๊อปปิ้งผ่านเว็บไซด์นี้ ?

เคยสังเกตไหมว่า วันๆ หนึ่งเราใช้เวลาอ่านรีวิวร้านอาหารผ่านเว็บไซต์มากขนาดไหน ?

เคยสงสงสัยไหมว่า ทำไมเราถึงแชทกับเพื่อนได้ทั้งวัน โดยที่ไม่เบื่อเลย ?

และเคยสงสัยไหมว่า เพราะอะไรทำไมบางเว็บไซต์ถึงมีคนเข้าเยอะน้อยต่างกัน ?

แน่นอนว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุผลเสมอ การสร้างเว็บไซต์ให้ได้รับความนิยมก็เช่นกัน 

เว็บไซต์จะได้รับความนิยมนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคงไม่พ้นเรื่องของการตอบโจทย์ความต้องการ

ของผู้ใช้ ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ในรูปแบบสินค้าหรือบริหาร คุณต้องรู้ว่าลูกค้าเป็นใคร คาดหวังอะไรจาก

เว็บไซต์หรืออยากรู้อะไรจากเว็บไซต์เรา เพื่อที่จะได้วางแผนในส่วนของเนื้อหาและการออกแบบต่อไป

User Experience (UX) หรือ ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน สิ่งที่แต่ละคนมีปฏิสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์หรือบริการ

นั้น ๆ และได้ประสบการณ์กลับไป ซึ่งการออกแบบ UX นั้นทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจต่อการใช้งาน

เช่น ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ได้จากการแก้ไขปัญหาจากเวอร์ชั่นก่อน เป็นต้น

User Interface (UI) เป็นเรื่องของหน้าตา สามารถจับต้องได้ เนื่องจากใช้ในการเชื่อมต่อกับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะ

เป็นส่วนของ การออกแบบแพลตฟอร์ม หน้าจอ เมนู ขนาดอักษร ไอคอน รวมไปถึงจอทัชสกรีน ที่ทำให้ผู้ใช้

เข้าใจง่ายและดึงดูดใจ

Ken Norton, Google Ventures ได้พูดถึงความแตกต่างระหว่าง UX และ UI ดังนี้ “UX มุ่งเน้นไปที่การใช้

งานของผู้ใช้เพื่อแก้ปัญหา ส่วน UI มุ่งเน้นที่หน้าตาและการทำงานของผลิตภัณฑ์” มาดูกันว่าการปรับเว็บไซด์

ให้ดูน่าสนใจต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

- กำหนดกลุ่มเป้าหมาย : อย่างที่กล่าวไว้ตอนแรกว่าต้องรู้ว่าผู้ใช้เป็นใคร คาดหวังอะไรจากเว็บไซต์ ทำอาชีพอะไร เสพสื่อประเภทไหน สนใจหัวข้อไหนเป็นพิเศษ

- ธีม : เนื่องจากแต่ละธีมมีการตั้งค่าที่เฉพาะตัว มีลูกเล่นต่างกัน การตั้งค่าต่างกัน การเลือกธีมให้สอดคล้องกับ

ธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากคำนึกถึงเรื่องราคาแล้ว ต้องคิดถึงเรื่องของคุณสมบัติว่าครอบคลุมการใช้งาน

หรือไม่ เพราะบางฟีเจอร์ก็ไม่ควรมองข้าม ซึ่งเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมในการสร้างเว็บไซต์ในตอนนี้ก็คงไม่

พ้น WordPress ที่คุณสามารถเลือกธีมสวย ๆ ให้เหมาะกับการใช้งานได้

- ปลั๊กอิน : จำนวนปลั๊กอินมีผลต่อความเร็วของเว็บไซต์ เพราะถ้าเราติดตั้งปลั๊กอินมากจนเกินไปจะทำให้

เว็บไซต์ช้าไม่ได้ดั่งใจ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราติดตั้งปลั๊กอินน้อยเกินไปเว็บไซต์ก็อาจจะทำงานได้ไม่เต็ม

ประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นเราควรติดตั้งปลั๊กอินเท่าที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น

- เนื้อหา หรือ คอนเทนต์ : เลือกคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจของผู้บริโภค ในส่วนของเนื้อหาก็ควรเป็น

ประโยชน์และมีคุณภาพสำหรับผู้อ่าน เพื่อสร้างความจดจำและเกิด “Call to action” ทำให้ผู้อ่านอยากจะแชร์

เนื้อหานั้น ๆ ต่อไป

- SEO : คอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจะไม่เกิดประโยชน์เลย ถ้าผู้อ่านไม่สามารถหามันเจอ จึงเป็นเหตุผลว่า

“ทำไมเราควรทำ SEO” ก็เพราะการทำ SEO ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้อ่านเจอคอนเทนต์ที่คุณสร้างขึ้นมา ยิ่งคอน

เทนต์ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่านมากเท่าไหร่ ก็จะมีคนคลิกเข้าไปดูมากเท่านั้น ยิ่งมีคนคลิกคอนเทนต์

ของคุณมากเท่าไหร่ Algorithm ของ Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเรา คือหนึ่งในผู้ที่ให้คอนเทนต์ตรงกับ

keyword ที่ผู้อ่านค้นหา จึงส่งคุณขึ้นไปอยู่ในอันดับแรก ๆ ของการค้นหาใน Google อย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้

ดังนั้นการปรับเว็บไซต์ให้มีความนิยมอันอับแรกควรคำนึงถึงความคาดหวังของผู้อ่านเป็นหลัก จากนั้นค่อยหา

เครื่องมืออย่างที่กล่าวไปข้างต้นทั้งในส่วนของเนื้อหาและการออกแบบ ทำให้ผู้อ่านเกิดความจดจำและแชร์

คอนเทนต์ เพื่อดึงผู้อ่านท่านอื่น ๆ เข้าเว็บไซต์ของเรามากขึ้นและทำให้เว็บไซต์เป็นที่นิยมในที่สุด