270 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที
Viral Content ทั้งดีและปัง ทำอย่างไร
ก่อนอื่นมารู้จักกันก่อนว่า Viral Content คือ อะไร? ถ้าพูดง่ายๆ Viral Content คือ ประเด็นที่ถูกพูดถึงกัน
อย่างแพร่หลาย เรียกได้ว่าใครที่ไม่รู้เรื่องนี่ถือว่าตกข่าว บางคอนเทนต์ก็เน้นการเกาะกระแสดัง ๆ ในช่วงนั้น
เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน สำหรับการทำคอนเทนต์ให้ดีและปังนั้น อยากให้ลองจินตนาการถึงการปรุง
อาหารดู จะมีใครบ้างไหมไม่อยากกินอาหารที่อร่อยและดี เพราะฉะนั้นวัตถุดิบและการปรุงแต่งรสชาติอาหาร
เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้อาหารอร่อย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละว่าต้องปรุงอะไรบ้าง เลือกใช้เครื่องครัวแบบ
ไหน แล้วทำอย่างไรถึงจะอร่อย
“ความอร่อยของเราไม่เท่ากัน” ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบกินรสชาติแบบไหน บางคนชอบอาหารรสจัด บางคนกิน
เผ็ดไม่ได้ บางคนเป็นมังสวิรัติ ในขณะที่บางคนไม่กินผักเลย การสร้างคอนเทนต์ก็เหมือนกัน ผู้เขียนจำเป็นที่
จะต้องรู้ว่าผู้อ่านหรือกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร จะได้วิเคราะห์ต่อไปได้ เขาชอบทำอะไร สิ่งไหนที่เค้าให้ความ
สนใจ คอนเทนต์แบบไหนที่ควรเอามา เพื่อที่จะสามารถผลิตคอนเทนต์ออกมาให้สมจริงและน่าติดตามตรง
ตามความต้องการของผู้อ่านได้
ต่อมาก็คงจะเป็นเรื่องของภาษา การพูดจากับใครสักคน จำเป็นต้องใช้ภาษาเดียวกับเขา ถึงจะเข้าใจกันได้
ก็เหมือนกับการเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับเมนูอาหารที่เลือกทำ ถ้าเลือกหม้อมาทอดไข่ก็คงเหมาะเท่ากัน
กะทะ ภาษาที่สื่อสารออกไปก็เช่นกัน ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กเยาวชน ก็ควรจะใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการเข้าถึงง่าย
แต่ถ้าเป็นการเขียนในเชิงของธุรกิจก็ควรหาแหล่งอ้างอิงที่ดูน่าเชื่อถือ เนื้อหาไม่ดูบันเทิงจนเกินไป ทีนี้ในยุคที่
คอนเทนต์ล้นตลาด การเล่าเรื่องเป็นสิ่งสำคัญเทียบได้กับการปรุงเมนูโปรดของเรา ถ้าเราเล่าเรื่องออกมาได้
สนุก แนบเนียนเข้าถึงผู้อ่าน ทำให้คล้อยตามในสิ่งที่เรากำลังนำเสนอ ก็ถือว่าเราได้ปรุงเมนูโปรดของเรานั้น
ออกมาอร่อยเลยทีเดียว
แล้วจะเล่าเรื่องอย่างไรให้ดูน่าสนใจหละ ?
คำว่า Story อ้างอิงนิยามจาก หนังสือชื่อ”Story Proof” the science behind the starting power of story
ว่า “Story เป็นเรื่องเล่าที่ประกอบด้วย ตัวละคร อุปสรรค การก้าวข้าม เพื่อไปสู่เป้าหมาย” แน่นอนว่าการสร้าง
การเล่าเรื่องต้องมีโครงเรื่อง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ จุดเริ่มต้น, กลางเรื่องและตอนจบ ส่วนที่
ทำให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมและลุ้นไปกับเนื้อเรื่องคงไม่พ้นวิธีการแก้ไขปัญหาสำหรับการก้าวผ่านอุปสรรคนั้น ๆ
ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนต้องมีคือ Key Message หรือสิ่งที่จะสื่อให้ผู้อ่านรับรู้ เพื่อที่จะได้เรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ อย่าง
สมเหตุสมผลและไม่มีน้ำมากเกินไป
การวางโครงเรื่องอย่างเดียวคงไม่พอ เราต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบ Charactor ของตัวละครแต่ละตัว
ในการดำเนินเรื่องด้วย ไม่ว่าจะเป็น พระเอก นางเอก ตัวร้าย และพระรอง ล้วนมีความสำคัญสำหรับการเล่า
เรื่องที่มีรสชาติและถ่ายทอดความรู้สึกไปยังผู้อ่านได้ เพราะการส่งต่อความรู้สึก ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วม
จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ call to action” คือ ทำให้ผู้อ่านอยากจะมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในคอนเทนต์
นั้นหรืออยากแชร์ต่อให้เพื่อน ทำให้คอนเทนต์เกิดเป็นประเด็นที่แพร่หลายได้
ความแปลกใหม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกตื่นตาตื่นใจ หรือถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ เราเรียกคอนเทนต์แบบนี้ว่าเป็น
“คอนเทนต์ตามกระแส” ก็ว่าได้ ซึ่งเครื่องมือในการดูว่าในช่วงเวลานั้นๆ อะไรกำลังเป็นที่จับตามอง ผู้เขียน
สามารถเข้าไปค้นหาได้ใน Google Trends หรือสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Twitter, Instagram
และ Facebok เป็นต้น
และสุดท้ายนี้สื่อที่เลือกใช้ในการสื่อสารกับผู้อ่านก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กันเลย ถ้าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน
เข้าใจยาก อาจจะเลือกใช้อินโฟกราฟิก ในการอธิบายรายละเอียดตามลำดับขั้นตอน ทำให้ผู้อ่านสามารถเห็น
ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น แต่ถ้าเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการก็อาจจะเหมาะสำหรับการเขียนเป็น
บทความหรือเนื้อข่าวสั้น ๆ พร้อมภาพประกอบ เป็นต้น เพราะฉะนั้นการที่จะทำ Viral Content จำเป็นที่จะต้อง
รู้กลุ่มเป้าหมาย สิ่งที่ต้องการสื่อให้ผู้อ่านรับรู้ ภาษาที่ต้องการจะสื่อสาร วิธีการเล่าเรื่อง และการเลือกสื่อที่
เหมาะสม
คอมพิวเตอร์ควอนตัมคืออะไร ส่งผลกับโลกของเรายังไง?
253 week ago
มาทำความเข้าใจกับยุค Crowd-based Capitalism
253 week ago
Most read this week
Trending
Comments
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion