ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาโทรศัพท์มือถือได้เปลี่ยนวิธีที่เราสื่อสาร การบริโภคข้อมูล และการทำธุรกิจ เป็นการยากที่จะนึกถึงการใช้ชีวิตของเราโดยปราศจากอุปกรณ์เหล่านี้ เช่นเดียวกันโทรศัพท์มือถือที่แพร่หลายในวันนี้ การเปลี่ยนแปลงระบบดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและเป็นเรื่องของการหาผลประโยชน์จากมัน

Satya Nadella, CEO ของ Microsoft ได้สรุปถึงวิธีที่ธุรกิจควรพิจารณาในเรื่องของ digital transformation ว่า "ทุกบริษัทเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ คุณต้องเริ่มต้นคิดและดำเนินงานให้เหมือนกับธุรกิจดิจิทัล ไม่เพียงแค่จัดหาโซลูชั่นและใช้งานแค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่โซลูชันซอฟต์แวร์แบบง่าย ๆ แต่ต้องคิดเปลี่ยนธุรกิจของคุณให้เป็นธุรกิจแบบดิจิทัลมากขึ้น”

จากผลการศึกษาของไมโครซอฟต์ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจะส่งผลให้ GDP ของอินเดียอยู่ที่ 154 พันล้านเหรียญภายในปี 2564

ดังนั้น SMEs สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงแบบดิจิทัลได้อย่างไร? ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับ 5 ข้อที่จะช่วยให้คุณได้

1. วางแผน  

คุณจำเป็นต้องคิดหากลยุทธ์ที่แน่ชัดเสียก่อนที่จะเริ่มทำ digital transformation วัตถุประสงค์ในธุรกิจของคุณคืออะไร และเทคโนโลยีจะช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร?

วางแผนแบบให้มีเป้าหมายที่สามารถวัดผลได้และตัวคุณเองสามารถที่จะรับผิดชอบไหว ให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งคู่ค้า สมาชิกในทีม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดมีส่วนร่วมในการระดมความคิด

2. สร้างวัฒนธรรมสำหรับ digital transformation
มีความจำเป็นที่ต้องทำให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจและเห็นพ้องกันในวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และโรดแมพสำหรับการทำ digital transformation ตัวอย่างเช่น สมาชิกในทีมรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและระบบใหม่ ๆ การฝึกอบรมและการปรับตัวอย่างจริงจังจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะทำให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด คุณอาจเริ่มต้นจากขั้นตอนเล็ก ๆ และเมื่อทีมของคุณได้เข้าสู่กระบวนการตามแผนที่วางไว้ คุณจะแน่ใจได้เองว่ามันต้องเสร็จสมบูรณ์

3. ตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและรวดเร็ว
ธุรกิจขนาดเล็กสามารถทำ digital transformation ได้ง่ายกว่าธุรกิจที่มีขนาดใหญ่เนื่องจากสามารถทำการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วกว่า บริษัทขนาดใหญ่มักมีผู้มีอำนาจตัดสินใจหลายคน และด้วยเหตุนี้การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ขั้นพื้นฐานและกระบวนการต่าง ๆ จึงใช้เวลานานมากกว่า

ความคล่องตัวในการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ช่วยให้ SMEs สามารถรับประโยชน์ได้ก่อนเมื่อเทียบกับบริษัทที่มีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม จำเป็นที่จะต้องทำให้แน่ใจเสียก่อนว่าการตัดสินใจทั้งหมดได้มีการศึกษาข้อมูลมามากพอแล้ว ตามที่ George Westerman แห่ง MIT Sloan Initiative on Digital Economy กล่าวว่า "เมื่อได้มีการทำ digital transformation อย่างถูกต้องแล้ว มันก็จะเหมือนกับดักแด้ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผีเสื้อ แต่เมื่อทำผิดคุณก็จะกลายเป็นดักแด้ที่ไม่ขยับเขยื้อนเลย"

4. จัดการอบรม
การฝึกอบรมเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสนใจและให้ความรู้แก่องค์กรเกี่ยวกับการทำ digital transformation จำเป็นต้องมีการอบรมและการสื่อสารกันเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าสมาชิกในทีมทุกคนเกิดความคุ้นเคยและสบายใจที่จะนำเทคโนโลยีและกระบวนการใหม่ ๆ เข้ามาใช้

5. ใส่ใจลูกค้า
การคิดกี่ยวกับการทำ digital transformation จากมุมมองของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ ถามตัวเองว่าจะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปใช้ประโยชน์ให้กับลูกค้าได้อย่างไร? ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นผู้ค้าปลีกที่มีหน้าร้านคุณควรพิจารณาให้มีร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของคุณสามารถซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา และในแต่ละวันลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าทั้งหมดของคุณได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส และสามารถส่งสินค้าได้ถึงหน้าประตูบ้านเลย

ถนนที่อยู่ข้างหน้า (อนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น)

Digital transformation เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับธุรกิจที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ดังนั้น เราควรใช้ประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงนี้โดยการทำความเข้าใจและตระหนักถึงอุปสรรคพร้อมวางแผนกลยุทธ์ในการที่จะเอาชนะปัญหาเหล่านี้