Scale it ---- fast

Scale it ---- fast

การเรียนรู้และการพัฒนา

วริศ หาญอุตสาหะ

วริศ หาญอุตสาหะ

335 week ago — ใช้เวลาอ่าน 5 นาที

Highlight: ทำธุรกิจต้องคิดถึงการเติบโต แล้วถ้าอยากจะโตไว โตเร็ว ข้อคิดเหล่านี้ช่วยผู้ประกอบการได้

 

โดยคุณรวิศ หาญอุตสาหะ 

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์ สหโอสถ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “ศรีจันทร์” 

 

Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง bridgewater associate บอกว่าถ้าจะเชื่อวิธีคิดของใครซักคน ขอให้ดูว่าในอดีตเขาเคยทำงานนั้นสำเร็จมาแล้วรึเปล่า

 

การทำธุรกิจแล้วต้องการ scale ในอัตราที่เร็วมากๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย การวางระบบกระบวนทางความคิดจึงสำคัญมาก

 

Gil Dudkiewicz ซึ่งเป็น founder ของ StartApp บริษัท startup ด้าน software ที่เติบโตเร็วมาก ได้กล่าวเรื่องของการ scale ไว้อย่างน่าคิดตาม

 

StartApp ปัจจุบันมีพนักงาน 160 คนและรายได้ราว 1,100 ล้านบาท ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือประเทศไทยก็มีบริษัทที่คนประมาณนี้เยอะมาก คือไม่เล็กมากแล้ว แต่ก็ไม่ใหญ่ (ตั้งแต่ 100-500 คน) เพราะฉะนั้นการยืมแนวคิดนี้มาใช้น่าจะใกล้เคียง

 

Gil บอกว่าบริษัทของเขามีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วมากเพราะว่าเขาโฟกัสที่การสร้าง culture ของบริษัทมากกว่าการมุ่งหารายได้ 

 

ถ้า culture คือสิ่งที่สำคัญที่ทำให้  StartApp โตได้อย่างรวดเร็ว เราก็น่าจะเรียนรู้อะไรจากวิธีคิดเรื่องการสร้าง  culture จาก Gil Dudkiewicz ได้เช่นกัน 

 

และนี่คือ 5 ข้อคิดในการ scale ที่เขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ entrepreneur.com  ครับ 

 

1.สร้างธุรกิจของคุณในตลาดที่กำลังเติบโต : การเลือกธุรกิจที่คุณกำลังจะทำสำคัญมาก (หรือในบางกรณีการเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจก็เข้าข่ายนี้เช่นกัน) มันไม่แปลกอะไรที่คุณอยากจะทำในสิ่งที่คุณชอบ แต่ถ้าหากคุณมีเป้าหมายที่มียอดขายหลักพันล้านหมื่นล้านแล้วละก็ การคำนวณขนาดและจังหวะของตลาด (เป็น  sunrise  หรือ   sunset business)  สำคัญมาก อย่ามองโลกในแง่ดีเกินไป บางครั้งการแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ดี แต่จำนวนลูกค้านั้นน้อยเกินไปหรือลูกค้ามีกำลังจ่ายให้คุณไม่พอก็ยากที่คุณจะกลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่แบบที่คุณหวังไว้ได้ ไม่ว่าคุณจะทำงานดีแค่ไหนก็ตาม

 

2. เลิก micromanage ทีมของคุณ: เรื่องหนึ่งเมื่อบริษัทเริ่มโตขึ้น ความจริงข้อหนึ่งที่เราต้องยอมรับ คือเราไม่สามารถที่จะสร้างธุรกิจด้วยตัวเองได้ 

 

เมื่อบริษัทคุณเริ่มโตเช่นมีคนเกิน 100  คนขึ้นไปแล้ว การบริหารงานคน 100 คนแบบ micromanage เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  ไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะสร้างความไร้ประสิทธิภาพให้กับองค์กรอย่างมาก

 

การไว้ใจในทีมเป็นเรื่องสำคัญมากให้โอกาสพวกเขาได้เติบโต ทำงานของตัวเอง ล้มเหลวบ้าง ให้เวลาและกำลังใจให้พวกเขาได้เรียนรู้และสนุกกับงาน

 

แต่การจะปล่อยให้ทีมของคุณทำงานได้เอง คุณต้องมั่นใจด้วยว่าคุณมีคนที่ถูกต้องจริงๆ ตัวอย่างที่เราอาจจะเคยอ่านกันจากหนังสือ Good to  Great เกี่ยวกับเรื่องของ CEO ของ Fannie Mae ที่เปลี่ยนธุรกิจจากที่ขาดทุน  “วันละ” 1  ล้านเหรียญ ไปเป็น  “กำไร” วันละ 4 ล้านเหรียญได้ สิ่งที่ Maxwell ทำคือการคัดทีมงานให้เหลือเพียงคนที่สามารถทำงานบน  “A-game” ได้เท่านั้น

 

3. ลูกค้าของคุณไม่ได้นั่งอยู่ที่ออฟฟิศคุณ:  ดังนั้นในฐานะ CEO หน้าที่ของคุณคือการไปอยู่ในที่ที่ลูกค้าอยู่และหาโอกาสใหม่ๆให้กับบริษัท

 

ตัวอย่างที่คลาสสิกมากคือเรื่องที่ Sam Walton เจ้าของห้าง Walmart มหาเศรษฐีลำดับต้นๆของโลก เคยถูก รปภ. ของห้างคู่แข่งในประเทศบราซิลโยนออกมานอกร้าน ขณะที่กำลังคุกเข่าอยู่และใช้สายวัดวัดขนาดของช่องทางเดินที่คนเดินผ่านไปผ่านมา  

 

สร้างระบบการทำ feedback และการ monitor เสียงในตลาดเพื่อวางแผนที่จะรับมือการความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าตลอดเวลา

 

4. ต้อนรับการเปลี่ยนแปลง และทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างด้วย: ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบการเปลี่ยนแปลง และการพูดให้คนเหล่านั้นยอมรับการเปลี่ยนแปลงอาจจะไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีที่สุดด้วย วิธีการที่ดีที่สุดในฐานะ CEO คือการทำให้ทุกคนเห็นเป็นตัวอย่างว่าตัวคุณเองนั้นสามารถรับกับการเปลี่ยนแปลงได้ดีขนาดไหน: don't just talk the talk but walk the walk

 

5. It’s a 24/7 job: ถ้าคุณชีวิตของคนที่ต้องการจะสร้างบริษัทที่โตเร็วมากๆ เกือบทุกคนจะตอบเหมือนกันว่าพวกเขาทำงานหรือคิดอะไรเกี่ยวกับงานตลอดเวลา ทุกวัน 

 

เพราะแม้ว่าวันที่คนอื่นหยุด คนเหล่านี้จะหยุดคิดเรื่องงานไม่ได้เลย เพราะถ้าไม่ทำงาน ก็ต้องหาความรู้ใหม่ๆ แรงบันดาลใจใหม่ ซึ่งในที่สุดแล้วเดี๋ยวจะได้กลับไปใช้ในงานอีกอยู่ดี 

 

ในบางจังหวะมันสนุกและตื่นเต้น แต่บางครั้งมันก็เหนื่อยและท้อใจมาก ดังนั้นถ้าคุณเลือกที่จะเดินสายนี้แล้วละก็อย่าลืมที่จะดูแล”กำลังใจ”ของตัวเองและคนรอบๆ ข้างเสมอ  

 

ที่บอกว่าอย่าลืมคนรอบข้างก็เพราะเวลาคุณเหนื่อยและเครียดมากๆ พลังงานพวกนี้มันส่งไปหาคนรอบๆ ตัวคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ความล้มเหลวจะเข้ามาเยือนเสมอๆ แต่ถ้าคุณเข้าใจและเรียนรู้จากมัน คุณจะเข้าใจว่านี่คือเส้นทางแห่งการผจญภัยที่รอคุณอยู่ 

 

เหมือนกับ  quote ของ Winnie-the-Pooh ที่ว่า

 

“When you see someone putting on his Big Boots, you can be pretty sure that an Adventure is going to happen.” 

 

เรื่องที่ผมเขียนนี้ก็ไม่ต่างกันหรอกครับ :) 

 

Scale it ---- fast

Comments