มีหลายวันในชีวิตการทำงานที่เราต้องปรับอารมณ์และต่อสู้เพื่อให้สามารถทำงานได้ บางครั้งความเกียจคร้านจะเข้ามาแทนที่ทำให้เราไขว้เขว และความสามารถในการทำงานก็จะลดลง บางครั้งถึงขนาดที่เราต้องหาเหตุผลที่จะทำให้เรารู้สึกไม่ดี ดังนั้น จะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ หากเราไม่มีสมาธิและไม่สามารถโฟกัสในการทำงานได้ บางครั้งกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานก็สามารถทำให้เลือดสูบฉีด และนำความคิดของเราเข้าสู่โหมดทำงานได้

นี่คือกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน 5 อย่าง ที่เราสามารถทำได้ง่าย ๆ ในที่ทำงาน เพื่อช่วยในการผ่อนคลาย และทำให้เราสามารถกลับไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. หลีกเลี่ยงการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน

การศึกษาที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดพบว่า การทำงานหลายอย่างพร้อมกันสามารถทำให้เสียการควบคุมได้ คนที่ทำงานหลายอย่างจะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างสิ่งที่สำคัญกับสิ่งที่ไม่สำคัญ เพราะสมองของมนุษย์สามารถประมวลผลข้อมูลได้ครั้งละหนึ่งอย่างเท่านั้น 

หากเกิดความเครียดจากการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ลองมุ่งเน้นไปที่การทำงานเพียงอย่างเดียวในแต่ละครั้ง เลือกงานทีละงานโดยเรียงตามลำดับความสำคัญของงาน แล้วทำตามนั้นจนกว่าคุณจะทำงานให้เสร็จ วิธีนี้จิตใจของเราจะได้รับการฝึกฝนให้เป็นระเบียบมากขึ้น และสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ในเวลาอันสั้นลง

2. ผ่อนคลายตัวเอง

เวลาส่วนใหญ่ของเราทุกวันหมดไปกับการทำงาน ในช่วง 8-9 ชั่วโมงที่เราทำงานทำให้กิจกรรมการออกกำลังกายของเราถูกจำกัด หลายคนมักบ่นว่าปวดเมื่อยร่างกายและจนถึงขั้นเป็น Office Syndrome ทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ดังนั้น หากเราเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองที่ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้ ให้ลองขยับกล้ามเนื้อ ยืดขา คอ และแขน เพื่อให้สมาธิและกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ออกไปเดินเล่น

การเดินคือการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม การเดินเพียง 5 นาทีทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง สามารถทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดฟินออกมาได้ การจิบกาแฟหรือเดินเล่นในที่ทำงาน ช่วยให้เราผ่อนคลายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ในท้ายที่สุด

4. ออกจากสำนักงาน

การทำสิ่งเดียวกันทุกวันอาจกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ เพื่อรักษาอาการเบื่อหน่าย ลองเปลี่ยนบรรยากาศด้วยสีเขียวจากต้นไม้ และการเปลี่ยนบรรยากาศโดยการออกไปทำงานที่ร้านกาแฟหรือ Co-Working Space ในบางครั้ง การออกจากออฟฟิศสักพัก และพักจากจอคอมพิวเตอร์เพียงไม่กี่นาที เมื่อกลับมาเราจะพร้อมที่จะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ 

5. พักกลางวัน

หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้คือการพักกลางวัน จากการวิจัยที่จัดทำโดย Tork พบว่าเมื่อเรารีบทานอาหารกลางวันอย่างรวดเร็วโดยไม่ละสายตาจากคอมพิวเตอร์ และไม่ลุกออกจากโต๊ะทำงาน จะทำให้สมองเหนื่อยล้า และจะลดประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว และยังนำไปสู่การเกิดโรคภัยไข้เจ็บในอนาคต

นอกจากกิจกรรม 5 ข้อที่กล่าวมาด้านบน ยังมีกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ที่สามารถช่วยในการผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น 

• ตั้งเวลาการนอนหลับและนาฬิกาปลุกที่เหมาะสม

นาฬิกาชีวภาพของร่างกายมนุษย์นั้นต้องเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับ และตื่นนอนในเวลาที่แตกต่างกันทุกวันสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำงานได้ การเข้านอนและตื่นในเวลาเดียวกันทุกวัน ช่วงแรกอาจพบว่าร่างกายของเราต่อต้านรูปแบบนี้ แต่ในไม่ช้าทุกอย่างจะเข้าที่ และเราจะเริ่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น

• ปิดโหมดดิจิทัลบ้าง

ข้อเสียของโลกดิจิทัลคือ ในขณะที่เรามีการเชื่อมต่อกับผู้คนในโลกดิจิทัลมากขึ้น เราก็เริ่มสูญเสียการสัมผัสแบบมนุษย์ จนเกิดคำ เช่น "fomo" หรือการกลัวการพลาดข้อมูลข่าวสารบนโลกดิจิทัล ซึ่งกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเราถูกแรงกดดันจากโลกโซเชียลมีเดีย ลองออกมาจากโลกดิจิทัลเป็นระยะ ๆ แล้วจะสังเกตเห็นผลในเชิงบวกของมัน

• จัดระเบียบโต๊ะทำงาน

การจัดระเบียบและทำความสะอาดโต๊ะทำงาน เป็นการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลาย มีความสุข และกระตุ้นให้เราทำงานได้ดีขึ้น

• ลองจับเวลา

ในวันที่เราไม่มีความรู้สึกอยากทำงาน งานง่าย ๆ ก็อาจกินเวลานานได้ หากไม่มีการจัดสรรเวลาที่ดี ลองปฏิบัติตามเทคนิค Pomodoro โดยการตั้งเวลาทำงาน 25 นาที จากนั้นตั้งเวลาพัก 5 นาที เพื่อช่วยให้สมองโล่ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในท้ายที่สุด