Viral Content ทั้งดีและปัง ทำอย่างไร

Viral Content ทั้งดีและปัง ทำอย่างไร

การตลาด

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

231 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

Viral Content ทั้งดีและปัง ทำอย่างไร

 

ก่อนอื่นมารู้จักกันก่อนว่า Viral Content คือ อะไร? ถ้าพูดง่ายๆ  Viral Content คือ ประเด็นที่ถูกพูดถึงกัน

อย่างแพร่หลาย เรียกได้ว่าใครที่ไม่รู้เรื่องนี่ถือว่าตกข่าว บางคอนเทนต์ก็เน้นการเกาะกระแสดัง ๆ ในช่วงนั้น

เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน สำหรับการทำคอนเทนต์ให้ดีและปังนั้น อยากให้ลองจินตนาการถึงการปรุง

อาหารดู จะมีใครบ้างไหมไม่อยากกินอาหารที่อร่อยและดี เพราะฉะนั้นวัตถุดิบและการปรุงแต่งรสชาติอาหาร

เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้อาหารอร่อย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละว่าต้องปรุงอะไรบ้าง เลือกใช้เครื่องครัวแบบ

ไหน แล้วทำอย่างไรถึงจะอร่อย

“ความอร่อยของเราไม่เท่ากัน” ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบกินรสชาติแบบไหน บางคนชอบอาหารรสจัด บางคนกิน

เผ็ดไม่ได้ บางคนเป็นมังสวิรัติ ในขณะที่บางคนไม่กินผักเลย การสร้างคอนเทนต์ก็เหมือนกัน ผู้เขียนจำเป็นที่

จะต้องรู้ว่าผู้อ่านหรือกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร จะได้วิเคราะห์ต่อไปได้ เขาชอบทำอะไร สิ่งไหนที่เค้าให้ความ

สนใจ คอนเทนต์แบบไหนที่ควรเอามา เพื่อที่จะสามารถผลิตคอนเทนต์ออกมาให้สมจริงและน่าติดตามตรง

ตามความต้องการของผู้อ่านได้ 

ต่อมาก็คงจะเป็นเรื่องของภาษา การพูดจากับใครสักคน จำเป็นต้องใช้ภาษาเดียวกับเขา ถึงจะเข้าใจกันได้

ก็เหมือนกับการเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับเมนูอาหารที่เลือกทำ ถ้าเลือกหม้อมาทอดไข่ก็คงเหมาะเท่ากัน

กะทะ ภาษาที่สื่อสารออกไปก็เช่นกัน ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กเยาวชน ก็ควรจะใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการเข้าถึงง่าย

แต่ถ้าเป็นการเขียนในเชิงของธุรกิจก็ควรหาแหล่งอ้างอิงที่ดูน่าเชื่อถือ เนื้อหาไม่ดูบันเทิงจนเกินไป ทีนี้ในยุคที่

คอนเทนต์ล้นตลาด การเล่าเรื่องเป็นสิ่งสำคัญเทียบได้กับการปรุงเมนูโปรดของเรา ถ้าเราเล่าเรื่องออกมาได้

สนุก แนบเนียนเข้าถึงผู้อ่าน ทำให้คล้อยตามในสิ่งที่เรากำลังนำเสนอ ก็ถือว่าเราได้ปรุงเมนูโปรดของเรานั้น

ออกมาอร่อยเลยทีเดียว 

 แล้วจะเล่าเรื่องอย่างไรให้ดูน่าสนใจหละ ? 

 

คำว่า Story อ้างอิงนิยามจาก หนังสือชื่อ”Story Proof” the science behind the starting power of story 

ว่า “Story เป็นเรื่องเล่าที่ประกอบด้วย ตัวละคร อุปสรรค การก้าวข้าม เพื่อไปสู่เป้าหมาย” แน่นอนว่าการสร้าง

การเล่าเรื่องต้องมีโครงเรื่อง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ จุดเริ่มต้น, กลางเรื่องและตอนจบ ส่วนที่

ทำให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมและลุ้นไปกับเนื้อเรื่องคงไม่พ้นวิธีการแก้ไขปัญหาสำหรับการก้าวผ่านอุปสรรคนั้น ๆ 

ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนต้องมีคือ Key Message หรือสิ่งที่จะสื่อให้ผู้อ่านรับรู้ เพื่อที่จะได้เรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ อย่าง

สมเหตุสมผลและไม่มีน้ำมากเกินไป

 

การวางโครงเรื่องอย่างเดียวคงไม่พอ เราต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบ Charactor ของตัวละครแต่ละตัว

ในการดำเนินเรื่องด้วย ไม่ว่าจะเป็น พระเอก นางเอก ตัวร้าย และพระรอง ล้วนมีความสำคัญสำหรับการเล่า

เรื่องที่มีรสชาติและถ่ายทอดความรู้สึกไปยังผู้อ่านได้ เพราะการส่งต่อความรู้สึก ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วม

จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ call to action” คือ ทำให้ผู้อ่านอยากจะมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในคอนเทนต์

นั้นหรืออยากแชร์ต่อให้เพื่อน ทำให้คอนเทนต์เกิดเป็นประเด็นที่แพร่หลายได้

 

ความแปลกใหม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกตื่นตาตื่นใจ หรือถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ เราเรียกคอนเทนต์แบบนี้ว่าเป็น

“คอนเทนต์ตามกระแส” ก็ว่าได้ ซึ่งเครื่องมือในการดูว่าในช่วงเวลานั้นๆ อะไรกำลังเป็นที่จับตามอง ผู้เขียน

สามารถเข้าไปค้นหาได้ใน Google Trends หรือสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Twitter, Instagram

และ Facebok เป็นต้น

 

และสุดท้ายนี้สื่อที่เลือกใช้ในการสื่อสารกับผู้อ่านก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กันเลย ถ้าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน

เข้าใจยาก อาจจะเลือกใช้อินโฟกราฟิก ในการอธิบายรายละเอียดตามลำดับขั้นตอน ทำให้ผู้อ่านสามารถเห็น

ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น แต่ถ้าเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการก็อาจจะเหมาะสำหรับการเขียนเป็น

บทความหรือเนื้อข่าวสั้น ๆ พร้อมภาพประกอบ เป็นต้น เพราะฉะนั้นการที่จะทำ Viral Content จำเป็นที่จะต้อง

รู้กลุ่มเป้าหมาย สิ่งที่ต้องการสื่อให้ผู้อ่านรับรู้ ภาษาที่ต้องการจะสื่อสาร วิธีการเล่าเรื่อง และการเลือกสื่อที่

เหมาะสม

 

Comments