SMEs กับการทำประกันที่ไม่ควรมองข้าม

SMEs กับการทำประกันที่ไม่ควรมองข้าม

ประกัน

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

305 week ago — ใช้เวลาอ่าน 5 นาที

หลายคนอาจจะยังคิดว่าธุรกิจของตนเองนั้นยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องทำประกัน ยังคิดว่ารออีกหน่อยให้ธุรกิจใหญ่โตมากกว่านี่้เสียก่อน ยังคิดว่าจะคุ้มหรือไม่ถ้าต้องจ่ายเงินค่าประกัน ฯลฯ และในที่สุดก็อาจจะเป็นการสายเกินไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น การทำประกันภัยสำหรับธุรกิจมีประโยชน์หรือช่วยเหลือเราในยามวิกฤติไม่ต่างจากการทำประกันชีวิต หรือประกันภัยบ้าน รถยนต์ หรือทรัพย์สินต่างๆ

 

ทำไมต้องมี

กว่าที่เราจะสร้างธุรกิจขึ้นมาได้นั้นต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มามากมายเท่าใด คงไม่มีใครอยากที่จะล้มลงกลางทาง หรือหากจะล้มลงก็ควรจะมีอะไรที่มาช่วยรองรับเราไว้เพื่อมิให้เราต้องได้รับอันตรายหรือความเจ็บปวดทั้งหมด การทำประกันภัยให้ธุรกิจก็เหมือนกับเรามีร่มกันแดดกันฝน หรือมีห่วงชูชีพที่ช่วยชีวิตเราให้ถึงฝั่งอย่างรอดปลอดภัย ธุรกิจของเราคือแหล่งรายได้สำคัญที่ใช้สำหรับเลี้ยงดูตัวเอง ครอบครัว ไม่ใช่เพียงแค่ครอบครัวของเราคนเดียว ยังรวมไปถึงอีกหลายชีวิตที่ทำงานให้กับเรา การทำประกันภัยเป็นการบริหารความเสี่ยงหรือเป็นการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจลง โดยจะมีบริษัทที่รับทำประกันภัยให้ธุรกิจของเราเป็นผู้ที่ช่วยแบ่งเบาภาระที่เกิดขึ้นนี้ไป ได้รับความคุ้มครอง มีเงินชดเชยความเสียหายทำให้การดำเนินธุรกิจไม่ต้องหยุดชะงัก ทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาทั้งหมดก็จะไม่สูญสลายไป

 

เมื่อไหร่ต้องทำ

เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างจึงควรใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน เพราะเราไม่รู้เหตุการณ์ในอนาคต หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาอย่างน้อยเราก็ยังมีความอุ่นใจว่าเรายังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพราะฉะนั้นหากถามว่าเมื่อไหร่ที่สมควรทำประกันภัยธุรกิจ คำตอบอยู่ที่การให้ความสำคัญต่อธุรกิจของคุณเอง หากมองถึงข้อดีและข้อเสียของการทำประกันภัยธุรกิจก็น่าจะเห็นถึงประโยชน์ที่น่าจะคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเบี้ยประกันที่ต้องเสียไป

 

การทำประกันภัยสำหรับธุรกิจนั้นทำได้หลายรูปแบบ ทั้งการทำประกันภัยออฟฟิศ อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ประกันภัยภายในโรงงาน เครื่องจักร วัตถุดิบ สินค้า การขนส่ง ยานพาหนะที่ใช้ในธุรกิจ หรือแม้แต่การประกันภัยให้พนักงานรวมไปถึงประกันภัยการทำทุจริตในองค์กรได้อีกด้วย

 

ประกันภัยที่ SMEs ไม่ควรมองข้าม

1. ประกันภัยทรัพย์สิน ไฟไหม้ และน้ำท่วม ภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ หรือน้ำท่วมอาจเกิดขึ้นได้และสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของ SMEs อย่างไม่คาดคิด บางรายถึงกับต้องล้มละลายไปก็มี  ดังนั้น เจ้าของธุรกิจทั้งหลายจึงควรศึกษาการทำประกันภัยทรัพย์สิน ไฟไหม้ และน้ำท่วมไว้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและบรรเทาความเสียหายลง

2. ประกันภัยยานพาหนะที่ใช้ในธุรกิจ ประกันชนิดนี้ควรต้องให้ความสำคัญเช่นกันเพราะหลายๆ ธุรกิจยังจำเป็นต้องใช้รถยนต์เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า บางธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีรถสำหรับการขนส่งหลายคันเพื่อการส่งสินค้าให้ได้ตามนัดหมาย มิใช่แค่เพียงการขนส่งเฉพาะสินค้าเท่านั้น บางธุรกิจยังต้องมีรถยนต์ขนาดเล็กอย่างมอเตอร์ไซค์เพื่อใช้ในการจัดส่งเอกสารหรือส่งของไปให้ลูกค้า จึงควรเลือกทำประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม

3. การประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก คือการทำประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สิน เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นผู้เอาประกันภัยจะได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยเฉพาะความเสียหายที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ตามปกติ เช่น ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ ไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ตามกำหนด ประกันภันชนิดนี้มีบทบาทในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเจ้าของธุรกิจ

4. ประกันสุขภาพกลุ่มสำหรับพนักงาน หรือประกันสังคม การเจ็บป่วยของพนักงานย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะจะทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานและมีผลไปถึงสวัสดิภาพของพนักงาน ประกันแบบกลุ่มจึงถือเป็นสวัสดิการที่จะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานได้เป็นอย่างดี จะทำให้พนักงานมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเวลาเจ็บป่วยก็จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

5. ประกันชีวิตสำหรับผู้บริหารและผู้ประกอบการ ผู้บริหารถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ การทำประกันชีวิตสำหรับผู้บริการก็คือความมั่นคงในการทำธุรกิจ ธุรกิจจะไม่ชะงักงัน ยังคงเดินหน้าต่อได้ ปัจจุบันสามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตผู้บริหารและผู้ประกอบการ มาลงเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้เต็มจำนวนอีกด้วย

 

ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยธุรกิจ

หากสนใจที่จะทำมองหาประกันภัยให้ธุรกิจควรต้องพิจารณาเรื่องต่อไปนี้เสียก่อนตัดสินใจ

1. เลือกบริษัทประกันที่เชื่อถือได้ ศึกษาเปรียบเทียบบริษัทประกันภัยที่มีความมั่นคง มีสภาพคล่องทางการเงิน มีชื่อเสียงน่าไว้ใจ

2. อ่านกรมธรรม์ให้เข้าใจ อ่านทุกอย่างให้ละเอียดรอบคอบ อย่ายึดแค่คำพูดของตัวแทนประกัน เพราะเมื่อเราทำประกันไปแล้วเรามักติดต่อกับบริษัทมากกว่าตัวแทน ข้อตกลงจะยึดเอาตามกรมธรรม์เป็นสำคัญ จึงสมควรที่จะเอ่านกรมธรรม์ให้ละเอียดรอบคอบจริงๆ

3. เลือกประกันภัยที่เหมาะสม ศึกษาเปรียบเทียบข้อเสนอให้ตรงตามต้องการที่สุด เลือกชนิดและค่าคุ้มครองตามที่ต้องการจริงๆ ประกันภัยที่เกินความความจำเป็นอาจทำให้ต้องเสียเงินแบบไม่คุ้มค่า

 

Comments