คำถามที่มักเกิดขึ้นบ่อยที่สุดเมื่อจะทำการตั้งค่าร้านค้าอีคอมเมิร์ซก็คือ “ควรมีฟีเจอร์ใดบ้างใน e-store ของเรา” และนั่นเป็นคำถามที่ควรต้องถามอย่างยิ่ง ทุกเว็บไซต์มีความแตกต่างและมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ วัน จากการมองผลิตภัณฑ์ใน 360 องศาไปจนถึงการเพิ่มฟีเจอร์ที่เป็นวิดีโอ หรือแม้แต่การเพิ่มตัวกรองการค้นหาขั้นสูง เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามมีคุณสมบัติบางอย่างที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต้องมีเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเวิร์ค มาดูกัน

10 ฟีเจอร์ที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณต้องมี

1. ใช้งานง่าย

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการออกแบบน้อยเกินไปจึงทำให้เว็บไซต์นั้นใช้งานยาก การศึกษาโดย HubSpot พบว่าลูกค้าเกือบ 76% เห็นว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของเว็บไซต์คือความง่าย ดังนั้น แทนที่จะเน้นในการออกแบบเว็บไซต์ให้ซับซ้อนเกินไป ควรเลือกที่จะใช้โครงสร้างแบบพื้น ๆ ที่ลูกค้าคุ้นเคย

จุดประสงค์หลักของเว็บไซต์ก็คือต้องนำทางลูกค้าของคุณไปสู่สิ่งที่พวกเขาต้องการโดยต้องไม่มีการคลิกหรือเปลี่ยนเส้นทางมากจนเกินไป

2. Mobile friendly

จากบทความวิเคราะห์การค้าโลกในไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 จากเว็บไซต์ Criteo เปิดเผยว่าการทำธุรกรรมบนสมาร์ทโฟนยังคงมีอัตราเพิ่มขึ้นในหลาย ๆ ประเทศ ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้สมาร์ทโฟนในการช็อปสินค้าและสั่งซื้อในช่วงที่ทำงานยุ่ง ๆ ดังนั้น หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซคือต้องออกแบบให้ใช้งานผ่านมือถือได้ง่าย สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มยอดขายแต่ยังช่วยในการปรับอันดับเว็บไซต์ของคุณด้วย

3. ภาพของผลิตภัณฑ์ที่คมชัด

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ไม่มีภาพผลิตภัณฑ์เป็นเหมือนเรือที่ไม่มีสมอ ลูกค้าต้องการเห็นทุกมุมของผลิตภัณฑ์เท่าที่เป็นไปได้ก่อนที่จะพุ่งเป้าไปที่การซื้อ ภาพสินค้าก็เป็นข้อมูลอย่างเดียวที่พวกเขามีเมื่อจะสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้ภาพสินค้าออกมาดูดี หากคุณกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการถ่ายภาพสินค้าให้ดูสวยงาม ไม่ต้องกังวลอีกแล้วเพราะทุกวันนี้สมาร์ทโฟนสามารถถ่ายภาพได้ในระดับ DSLR และสิ่งที่คุณต้องทำก็แค่จัดวางสินค้าและจัดแสงแบบธรรมชาติให้ดูดีเท่านั้น

4. วิดีโอมีความละเอียดสูง

วิดีโอของผลิตภัณฑ์ทำให้สิ่งที่มันดีอยู่เเล้วดียิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าคุณจะขายผลิตภัณฑ์ใดบน e-store นับเป็นความคิดที่ดีหากมีวิดีโอสาธิตที่ช่วยโน้มน้าวใจลูกค้าให้ซื้อผลิตภัณฑ์ การมีวิดีโอตัวอย่างให้ลูกค้าดูก็เหมือนกับคุณกำลังยกการขายแบบหน้าร้านของคุณมาไว้บนหน้าจอโทรศัพท์ของพวกเขา และอะไรล่ะที่จะดีไปกว่านี้ได้อีก ขณะที่อัปโหลดวิดีโอสาธิตมาไว้บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้:

• วิดีโอต้องไม่ยาวเกินไป ควรทำให้สั้นเพื่อให้สตรีมได้อย่างง่าย

• นำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ชมของคุณ

• วิดีโอทุกชุดต้องมีความละเอียดสูง

5. รีวิวจากผู้ใช้และความนิยม

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะไม่มีทางสมบูรณ์ได้เลยหากไม่มีการยืนยันถึงความพึงพอใจและการให้คะแนนของลูกค้า เนื่องจากลูกค้าไม่สามารถรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการจริงก่อนการซื้อ ความคิดเห็นของคนที่มีประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นมาก่อนจึงเป็นตัวช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น และลูกค้ามักจะไว้วางใจบุคคลอื่นที่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อผลิตภัณฑ์และบริการนั้น

การสำรวจที่น่าสนใจโดย Moz.com พบว่าลูกค้าเกือบ 67% ได้รับอิทธิพลจากการรีวิวสินค้า การสำรวจยังพบว่า บริษัท e-commerce มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียลูกค้าเกือบ 22% เนื่องจากการรีวิวเชิงลบเพียงครั้งเดียว คุณคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงควรให้มีพื้นที่สำหรับการรีวิวโดยเฉพาะซึ่งจะทำให้ลูกค้าเชื่อถือได้

6. มีช่องทางแชท

chatbot เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณ หากลูกค้าที่ใช้งานเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมีข้อสงสัยและมีระบบที่ช่วยเหลือในการสนทนาสดก็จะสามารถช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้แบบเรียลไทม์ นี่คือข้อดีบางประการของการติดตั้ง chatbot ในร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณ:

• สามารถจัดการข้อสงสัยได้หลายปัญหาในเวลาเดียวกัน

• สะดวกในการตอบปัญหาแบบเรียลไทม์

• รู้สึกเหมือนได้ติดต่อกับคนด้วยกัน เพราะมีคนจริง ๆ นั่งอยู่ด้านหลังหน้าจอด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้คนสามารถรับรู้ได้

• สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ลูกค้าได้รับและปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณได้โดยการโต้ตอบกับลูกค้า

7. ข้อเสนอและโปรโมชั่น

ใครบ้างที่ไม่ชอบข้อเสนอพิเศษ วิธีรักษาลูกค้าเก่าและแปลงลูกค้าที่มีศักยภาพไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่าการมอบข้อเสนอและส่วนลด เมื่อผู้ซื้อของคุณรู้ว่าพวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนลดและข้อเสนอที่หลากหลาย พวกเขาจะมีแรงจูงใจที่จะลองใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของคุณอย่างง่ายดาย

คุณสามารถใช้วิธีส่งข้อมูลทางอีเมลหรือ SMS เพื่อให้ลูกค้าทราบถึงข้อเสนอและส่วนลดของคุณหรือคุณอาจมีรายชื่ออยู่ในหน้าแรกเพื่อให้ทุกครั้งที่มีคนเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ของคุณ เขาจะเห็นข้อเสนอได้ทันที คุณสามารถสร้างหน้าเพจเฉพาะสำหรับข้อเสนอที่สามารถใช้ประโยชน์ในเวลาที่เขากำลังจะออกไปจากเว็บก็ได้

8. มีช่องทางชำระเงิน

เพื่อให้ผู้ซื้อของคุณมีประสบการณ์ในการสั่งซื้อออนไลน์ได้อย่างราบรื่น จำเป็นต้องมีช่องทางหรือระบบการชำระเงินแบบองค์รวม ระบบการชำระเงินเป็นซอฟต์แวร์ที่เชื่อมโยงเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของผู้ค้าไปยังธนาคารเขาที่ใช้บริการ และเปลี่ยนเส้นทางลูกค้าไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัยที่พวกเขาสามารถป้อนรายละเอียดของบัตรต่าง ๆ สำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตทั้งหมด คุณสามารถใช้ระบบการชำระเงินที่มีให้เลือกมากมายในประเทศ และเลือกระบบที่เหมาะสมกับงบประมาณและเว็บไซต์ของคุณมากที่สุด

9. มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัย

เพื่อปกป้องลูกค้าและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจากการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์ นับเป็นสิ่งสำคัญที่เว็บของคุณต้องมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ดีพอ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ:

• ใบรับรองความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์บนมาตรฐาน SSL: SSL certificate เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่เชื่อมโยงการเข้ารหัสกับรายละเอียดทั้งหมดของบริษัท และเมื่อคุณติดตั้งบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ มันจะปลดล็อคหรือเรียกใช้โปรโตคอล 'https' เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยในการท่องเว็บ .

• นโยบายความเป็นส่วนตัว: ติดตั้งลิงก์แสดงนโยบายความเป็นส่วนตัวตรงด้านล่างของหน้าเว็บเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณจะไม่ถูกแชร์กับบุคคลที่สามใด ๆ

• Firewall: เป็นระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายที่กรองปริมาณการรับข้อมูลขาเข้าและขาออกตามนโยบายความปลอดภัย วิธีนี้ช่วยป้องกันเครือข่ายที่ไม่น่าเชื่อถือไม่ให้ละเมิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ

10. มีช่องทางติดตามคำสั่งซื้อได้

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คุณสมบัติที่สำคัญของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซคือการจัดการคำสั่งซื้อ ลูกค้าของคุณควรได้รับความชัดเจนในเรื่องของนโยบายการจัดส่ง วิธีการชำระเงิน การคืนสินค้า และนโยบายการเปลี่ยนสินค้า พวกเขาควรติดตามคำสั่งซื้อได้อย่างง่ายดายตามเวลาจริง ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ช่วยสร้างความไว้วางใจจากลูกค้าของคุณได้

กฎง่าย ๆ ในการสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ยอดเยี่ยมนั้นคือการทำตาม **** หรือ Keep it simple หลักง่าย ๆ ซึ่งเป็นหลักการออกแบบที่กองทัพเรือสหรัฐฯ คิดไว้ในปี 1960 หลักการนี้คือ สิ่งต่าง ๆ หากเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนจะดีที่สุด และควรจะเป็นเป้าหมายในการพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

แล้วคุณจะรออะไร นึกถึงเคล็ดลับเหล่านี้ไว้เสมอ และเริ่มสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าของคุณได้เลย