รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมรักษ์โลกที่เติบโตขึ้นทุกปี

รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมรักษ์โลกที่เติบโตขึ้นทุกปี

Technology

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

242 week ago — 3 min read

 

ในยุคปัจจุบันได้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมามากมาย เพื่อช่วยให้ชีวิตของเราเกิดความสะดวกสบายมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle ที่ถูกคิดค้นพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการใช้ทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปอย่างน้ำมัน โดยเปลี่ยนมาใช้พลังงานที่หมุนเวียนได้อย่างไฟฟ้า ซึ่งลดการเกิดมลภาวะในอากาศ เพราะไม่เกิดการเผาไหม้จากการสันดาปในเครื่องยนต์ และช่วยบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนในระยะยาว เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมรักษ์โลกที่มาแน่ในพ.ศ. นี้

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่ายรถยนต์น้อยใหญ่ต่างก็แข่งขันกันพัฒนารถยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รถยนต์มีเทคโนโลยีและการทำงานต่าง ๆ ที่ช่วยลดการใช้น้ำมันให้น้อยลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสการอนุรักษ์พลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกคนหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น อย่างระบบ Full Hybrid ที่เราเห็นกันในรถยนต์ของ Toyota Hybrid ทุกรุ่น 

 

โตโยต้านั้นเป็นค่ายที่พัฒนาระบบ Hybrid มานาน โดยเริ่มต้นจาก Toyota Prius ตั้งแต่ปี 1997 และทำให้รถยนต์ Hybrid มีการใช้งานแพร่หลายอย่างทุกวันนี้ การทำงานของรถยนต์ Full Hybrid นั้น จะใช้การทำงานของเครื่องยนต์ปกติผสมผสานกับมอเตอร์และแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน 

 

เมื่อเทคโนโลยี Full Hybrid เรื่มนิ่งแล้ว ต่อมาได้มีการพัฒนามาอีกขึ้นเป็นระบบ Plug-in Hybrid ซึ่งการทำงานเหมือนกับ Full Hybrid แต่สามารถวิ่งโดยการใช้ไฟฟ้าล้วนได้นานขึ้น โดยแบตเตอรี่จะมีขนาดใหญ่กว่าของ Full Hybrid และจะมีการใช้สายชาร์จแบบอะแดปเตอร์ให้ ซึ่งสามารถต่อชาร์จกับไฟบ้านได้โดยตรง ใช้เวลาในการชาร์จ 4-6 ชั่วโมง

 

ปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนามาถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งโดยใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีหลายยี่ห้อและโมเดล ทั้งรถซีดาน, รถ SUV และรถสปอร์ต ตัวอย่างเช่น Honda FCV, Tesla Model S70D, Audi E-Tron และ BMW I8 ซึ่งถ้าพูดถึงความล้ำหน้าที่สุดก็คงต้องยกให้ Tesla ที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

 

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าคือไม่ปลดปล่อยไอเสีย ที่เป็นปัจจัยในการเกิดมลพิษในอากาศ จนไปถึงสภาวะเรือนกระจก ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดโลกร้อนนั้นมาจากควันไอเสียรถยนต์ถึง 25% รถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถลดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันถึง 3-4 เท่า และยังช่วยประหยัดทรัพยากรอย่างน้ำมันให้ไม่หมดไปจากโลก

 

แต่ด้วยความที่รถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นสิ่งใหม่ ย่อมต้องมีข้อเสียที่ตามมาเป็นธรรมดา ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นเทคโนโลยีที่ยังมีราคาที่สูงอยู่ ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถซื้อได้ และตัวเลือกในตลาดยังคงมีน้อย รวมไปถึงค่าบำรุงรักษาที่มีราคาแพง เพราะระบบมีความซับซ้อน ช่างทั่วไปยังไม่สามารถซ่อมได้ เวลามีปัญหาต้องเอาเข้าศูนย์บริการอย่างเดียว นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องชาร์จไฟเป็นประจำ และใช้ระยะเวลาในการชาร์จค่อนข้างนาน ในกรณีที่ต้องเดินทางไกลอาจจะไม่สะดวก

 

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้านั้นใช้งานแพร่หลายแล้วในทวีปยุโรป และอเมริกา แต่สำหรับในไทยเมื่อเปรียบเทียบเหตุผลต่าง ๆ แล้วหลายคนยังมองว่ารถยนต์ระบบ Full Hybrid เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็มีรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ๆ ที่มีระะบดีขึ้นออกมาทุกปี เพราะฉะนั้นคาดว่าในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปีในอนาคต จะมีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่พัฒนาขึ้นอีกออกมามากมาย และในบ้านเราจะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งกันให้เห็นมากขึ้นตามท้องถนน

 

 

Comments